ผู้จัดการรายวัน 360 - กองปราบเตรียมออกหมายจับนอมินี "หลงจู๊สมชาย" ฟอกเงินพนัน - รอง ผบก.ป. ลั่นหากพบหลักฐานเชื่อมโยงถึงใครจับหมดไม่มียกเว้น พร้อมออกโรงโต้ "แม่เสี่ยโป้" ที่หนีซุกประเทศเพื่อนบ้าน ยันทำตามหน้าที่ มีหลักฐานเส้นทางการเงินเชื่อมโยงถึงกันหมด ส่วนเรื่องคลิปเก่าที่ น.ส.บานเย็น อ้างถึง แจงว่ามีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นคลิปใหม่จัดทำขึ้นเมื่อใด "พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์" รองผบ.ตร. ชี้ 'แม่เสี่ยโป้' ร้อนตัวโผล่เฟซบุ๊กดิสเครดิตตำรวจ ขณะที่ ดีเอสไอ ร่วมสอบบ่อนช่วงแพร่ระบาดโควิด-19 พบเอี่ยว “เสี่ยโป้-หลงจู๊” พร้อมขยายผลเส้นทางการเงิน
วานนี้ (16 ก.พ.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีจับกุม นายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือหลงจู๊สมชาย ว่าขณะนี้พนักงานสอบสวนกองปราบน ยังอยู่ระหว่างขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงิน หาความเชื่อมโยงไปถึงผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ หากพบหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใคร ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก็จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายเหมือนกันหมด ไม่มีข้อยกเว้น
รายงานข่าวแจ้งว่า จากแนวทางสืบสวนเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวพบว่า ทรัพย์สินมีค่าและกิจการต่างๆ ของนายสมชาย ที่ได้มาจากเงินที่กระทำผิดส่วนใหญ่ จะถือครองโดยบุคคลใกล้ชิดรอบตัว หรือคนสนิทที่ไว้ใจเกือบทั้งหมด บุคคลเหล่านี้จะเป็นผู้ถือครองเพียงแค่ในนามเท่านั้น คล้ายกับลักษณะของนอมินี เพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้หนักใจมากนัก เนื่องจากมีพยานหลักฐานความเชื่อมโยงเส้นทางการเงิน อยู่ระหว่างสืบหาและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อเตรียมขออำนาจศาลออกหมายจับ ในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินบุคคลเหล่านี้ต่อไป
รองผบ.ตร. ชี้ 'แม่เสี่ยโป้' ร้อนตัว
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) กล่าวถึง การสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีเครือข่ายเว็บพนันกาแล็คซี่ออนไลน์ ที่ถูกออกหมายจับยังหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ว่า ทั้ง 31 ผู้ต้องหาตามหมายจับ สามารถติดตามจับกุมตัวได้แล้วจำนวน 20 หมาย เหลืออีก 11 หมายจับ ยังอยู่ระหว่างติดตามตัว ซึ่งมีหนึ่งคนเป็นคนสำคัญในเครือข่ายนี้คือนางบานเย็น ชาญนรา อายุ 47 ปี มารดาของนายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามจับกุมตัวให้ได้โดยเร็ว
ส่วนกรณีที่นางบางเย็น ออกมาโพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมวิจารณ์การทำงานของตำรวจว่าไม่เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายนั้น ทางพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ถือเป็นการทำลายความชอบธรรมที่ตำรวจไปจับกุม แต่ยังยืนยัน ตำรวจทำงานด้วยความรอบคอบ ซึ่งใช้เวลาสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนศาลอนุมัติหมายจับทั้ง 31 หมาย มั่นใจในพยานหลักฐานของทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้ง 31 หมาย เป็นในลักษณะการทำงานร่วมกัน แบ่งงานกันทำ ทั้งการเล่นการพนัน การชักชวน รวมถึงการสมคบกันฟอกเงิน
"หากไม่มีพยานหลักฐานคงไม่สามารถออกหมายจับได้ และถือว่าเป็นตัวการสำคัญ ที่ออกมาดิสเครดิตแสดงว่า เขาก็ต้องร้อนตัว"
เมื่อถามถึงกรณีการตรวจสอบถิ่นที่อยู่ของผู้ต้องหาที่หลบหนี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เป็นไปได้ว่ายังอยู่ในประเทศไทย หรือตามแนวตะเข็บชายแดนจริงๆ
โต้ "แม่เสี่ยโป้" ยันเส้นทางการเงินมัดแน่น
วานนี้ (16 ก.พ.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป.กล่าวถึงกรณี น.ส.บานเย็น ชาญนรา แม่ของ นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ โพสต์เฟซบุ๊กในเชิงกล่าวหาว่า ถูกกลั่นแกล้ง จึงไม่ยอมมอบตัว เพราะเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ว่า เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าทำตามพยานหลักฐาน มีหลักฐานเส้นทางการเงินเชื่อมโยงถึงกันหมด ส่วนเรื่องคลิปเก่าที่ น.ส.บานเย็น อ้างถึง ขอชี้แจงว่ามีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นคลิปใหม่จัดทำขึ้นเมื่อใด
รายงานข่าวแจ้งว่า จากแนวทางสืบสวนพบว่า ขณะนี้ น.ส.บานเย็น พร้อมกลุ่มผู้ต้องหาขบวนการเดียวอีกประมาณ 2-3 คน ได้หนีข้ามฝั่งไปหลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปอส.ตร.) ซึ่งเป็นแม่งานหลักในการติดตามตัว น.ส.บานเย็น จึงได้จัดกำลังลงพื้นที่เฝ้าสังเกตการณ์ ริมพื้นที่รอยต่อชายแดนประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด พร้อมกับเร่งสืบหาเบาะแสติดตามความเคลื่อนไหวของ น.ส.บานเย็น ผู้ต้องหารายนี้อย่างต่อเนื่อง
"ดีเอสไอ" สอบเส้นทางการเงินบ่อนโยง "เสี่ยโป้ - หลงจู๊"
พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยกรณีการจับกุม เสี่ยโป้ อานนท์ และ นายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือหลงจู๊สมชาย ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีการพนัน ว่า การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายดังกล่าวอยู่ในอำนาจหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคดีการพนันไม่ได้อยู่ในบัญชีท้าย พ.ร.บ.กรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่ ดีเอสไอ อยู่ในคณะกรรมการตรวจสอบตามคำสั่งแต่งตั้งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมี นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนันเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และมี พ.ต.อ.อัครพล ปุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นประธานอนุกรรมการสืบสวนเส้นทางการเงิน
“ส่วนการเอาผิดเซิร์ฟเวอร์การพนันออนไลน์จากต่างประเทศ เชื่อมโยงกับนายทุนคนไทยนั้น หากเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติและมีผู้ร่วมกระทำความผิดในประเทศ ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่ถ้าอยู่นอกราชอาณาจักรต้องให้พนักงานอัยการเป็นผู้ประสานงานตามขั้นตอนระหว่างประเทศต่อไป”
"แม่เสี่ยโป้" ประกาศไม่ยอมมอบตัว
นางบานเย็น ชาญนรา มารดานายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "บานเย็น อ้อ ชาญนรา" เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า ความเป็นจริงดังนี้
1. คลิปที่ปรากฏ ณ เวลานี้ เป็นคลิปเก่าที่มีผู้ต้องการหาผลประโยชน์ หลอกประชาชน เพื่อเชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของตนเองที่ไม่เกี่ยวกับเสี่ยโป้
2. บัญชี และโทรศัพท์ ที่ลงตามสำนวนบันทึกการจับกุม ไม่ได้พบเจอจริงๆ ในการจับกุมครั้งนี้ ถ้าเจอจริงๆในการจับกุมครั้งนี้ ควรยื่น หรือเปิดคลิปหลักฐานมาแสดงต่อศาล หรือสื่อต่างๆ
3. ตู้เซฟที่แจ้งว่า ยังไม่มีการเปิด รอแม่เสี่ยโป้เข้ามามอบตัว และมาเซ็นยินยอมนั้น ทำไมไม่ชี้แจงเรื่องจริงว่า เปิดไปตั้งแต่วันแรกที่กองปราบฯแล้ว แต่เปิดมาแล้วพบสร้อยทองคำสลึง 3 เส้น แต่กลับอ้างว่ายังไม่เปิด เพราะจะได้ทำให้สถานการณ์มันน่าตื่นเต้นขึ้น และให้คิดว่าทรัพย์สินก้อนโต ยังต้องอยู่ในเซฟใบนี้
4. ไปคุกคาม ตามหาคนรอบข้างที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้อง หรือกระทำความผิดใดๆ โดยไม่สนใจว่าครอบครัวของคนที่พวกคุณตามหา เพื่อหวังได้แค่ข้อมูลบางสิ่งบางอย่าง ทั้งที่เข้าก็ไม่มีข้อมูลที่คุณต้องการด้วยซ้ำ
5. ถ้าคุณเป็นกลางจริงๆ ทำอะไรว่าด้วยหลักฐาน จะกลัวอะไร จะคัดค้านการประกันตัวทำไม ในเมื่อที่ผ่านมาไม่ว่าจะคดีอะไร เสี่ยโป้และครอบครัว เข้ามอบตัวและรายงานตัวต่อศาลทุกครั้งไม่เคยหลบหนี
"ที่พิมพ์ถึงเรื่องนี้ ไม่ได้หวังจะเอาความดีมาหักล้าง แค่อยากจะขอความเป็นธรรมว่า ถ้าถามว่าทำไมแม่ถึงไม่เข้ามอบตัว ถ้าไม่ผิดจริงๆ เพราะคิดว่าเข้ามอบตัวก็ไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงแบบนี้ค่ะ ขอต่อสู้อยู่ด้านนอกแบบนี้ เพื่อแฉข้อมูลเท็จ ของตำรวจแบบนี้ดีกว่าค่ะ #ขอความเป็นธรรม"
รายงานข่าวแจ้งว่า นางบานเย็น มารดาเสี่ยโป้ ที่หลบหนีเงื้อมมือกฎหมายอยู่นั้นน่าจะเดินทางข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแล้ว โดยมีอดีตนายตำรวจคนดังเป็นผู้ประสานให้การช่วยเหลือ
วานนี้ (16 ก.พ.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีจับกุม นายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือหลงจู๊สมชาย ว่าขณะนี้พนักงานสอบสวนกองปราบน ยังอยู่ระหว่างขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงิน หาความเชื่อมโยงไปถึงผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ หากพบหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใคร ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก็จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายเหมือนกันหมด ไม่มีข้อยกเว้น
รายงานข่าวแจ้งว่า จากแนวทางสืบสวนเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวพบว่า ทรัพย์สินมีค่าและกิจการต่างๆ ของนายสมชาย ที่ได้มาจากเงินที่กระทำผิดส่วนใหญ่ จะถือครองโดยบุคคลใกล้ชิดรอบตัว หรือคนสนิทที่ไว้ใจเกือบทั้งหมด บุคคลเหล่านี้จะเป็นผู้ถือครองเพียงแค่ในนามเท่านั้น คล้ายกับลักษณะของนอมินี เพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้หนักใจมากนัก เนื่องจากมีพยานหลักฐานความเชื่อมโยงเส้นทางการเงิน อยู่ระหว่างสืบหาและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อเตรียมขออำนาจศาลออกหมายจับ ในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินบุคคลเหล่านี้ต่อไป
รองผบ.ตร. ชี้ 'แม่เสี่ยโป้' ร้อนตัว
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) กล่าวถึง การสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีเครือข่ายเว็บพนันกาแล็คซี่ออนไลน์ ที่ถูกออกหมายจับยังหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ว่า ทั้ง 31 ผู้ต้องหาตามหมายจับ สามารถติดตามจับกุมตัวได้แล้วจำนวน 20 หมาย เหลืออีก 11 หมายจับ ยังอยู่ระหว่างติดตามตัว ซึ่งมีหนึ่งคนเป็นคนสำคัญในเครือข่ายนี้คือนางบานเย็น ชาญนรา อายุ 47 ปี มารดาของนายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามจับกุมตัวให้ได้โดยเร็ว
ส่วนกรณีที่นางบางเย็น ออกมาโพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมวิจารณ์การทำงานของตำรวจว่าไม่เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายนั้น ทางพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ถือเป็นการทำลายความชอบธรรมที่ตำรวจไปจับกุม แต่ยังยืนยัน ตำรวจทำงานด้วยความรอบคอบ ซึ่งใช้เวลาสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนศาลอนุมัติหมายจับทั้ง 31 หมาย มั่นใจในพยานหลักฐานของทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้ง 31 หมาย เป็นในลักษณะการทำงานร่วมกัน แบ่งงานกันทำ ทั้งการเล่นการพนัน การชักชวน รวมถึงการสมคบกันฟอกเงิน
"หากไม่มีพยานหลักฐานคงไม่สามารถออกหมายจับได้ และถือว่าเป็นตัวการสำคัญ ที่ออกมาดิสเครดิตแสดงว่า เขาก็ต้องร้อนตัว"
เมื่อถามถึงกรณีการตรวจสอบถิ่นที่อยู่ของผู้ต้องหาที่หลบหนี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เป็นไปได้ว่ายังอยู่ในประเทศไทย หรือตามแนวตะเข็บชายแดนจริงๆ
โต้ "แม่เสี่ยโป้" ยันเส้นทางการเงินมัดแน่น
วานนี้ (16 ก.พ.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป.กล่าวถึงกรณี น.ส.บานเย็น ชาญนรา แม่ของ นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ โพสต์เฟซบุ๊กในเชิงกล่าวหาว่า ถูกกลั่นแกล้ง จึงไม่ยอมมอบตัว เพราะเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ว่า เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าทำตามพยานหลักฐาน มีหลักฐานเส้นทางการเงินเชื่อมโยงถึงกันหมด ส่วนเรื่องคลิปเก่าที่ น.ส.บานเย็น อ้างถึง ขอชี้แจงว่ามีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นคลิปใหม่จัดทำขึ้นเมื่อใด
รายงานข่าวแจ้งว่า จากแนวทางสืบสวนพบว่า ขณะนี้ น.ส.บานเย็น พร้อมกลุ่มผู้ต้องหาขบวนการเดียวอีกประมาณ 2-3 คน ได้หนีข้ามฝั่งไปหลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปอส.ตร.) ซึ่งเป็นแม่งานหลักในการติดตามตัว น.ส.บานเย็น จึงได้จัดกำลังลงพื้นที่เฝ้าสังเกตการณ์ ริมพื้นที่รอยต่อชายแดนประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด พร้อมกับเร่งสืบหาเบาะแสติดตามความเคลื่อนไหวของ น.ส.บานเย็น ผู้ต้องหารายนี้อย่างต่อเนื่อง
"ดีเอสไอ" สอบเส้นทางการเงินบ่อนโยง "เสี่ยโป้ - หลงจู๊"
พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยกรณีการจับกุม เสี่ยโป้ อานนท์ และ นายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือหลงจู๊สมชาย ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีการพนัน ว่า การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายดังกล่าวอยู่ในอำนาจหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคดีการพนันไม่ได้อยู่ในบัญชีท้าย พ.ร.บ.กรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่ ดีเอสไอ อยู่ในคณะกรรมการตรวจสอบตามคำสั่งแต่งตั้งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมี นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนันเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และมี พ.ต.อ.อัครพล ปุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นประธานอนุกรรมการสืบสวนเส้นทางการเงิน
“ส่วนการเอาผิดเซิร์ฟเวอร์การพนันออนไลน์จากต่างประเทศ เชื่อมโยงกับนายทุนคนไทยนั้น หากเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติและมีผู้ร่วมกระทำความผิดในประเทศ ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่ถ้าอยู่นอกราชอาณาจักรต้องให้พนักงานอัยการเป็นผู้ประสานงานตามขั้นตอนระหว่างประเทศต่อไป”
"แม่เสี่ยโป้" ประกาศไม่ยอมมอบตัว
นางบานเย็น ชาญนรา มารดานายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "บานเย็น อ้อ ชาญนรา" เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า ความเป็นจริงดังนี้
1. คลิปที่ปรากฏ ณ เวลานี้ เป็นคลิปเก่าที่มีผู้ต้องการหาผลประโยชน์ หลอกประชาชน เพื่อเชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของตนเองที่ไม่เกี่ยวกับเสี่ยโป้
2. บัญชี และโทรศัพท์ ที่ลงตามสำนวนบันทึกการจับกุม ไม่ได้พบเจอจริงๆ ในการจับกุมครั้งนี้ ถ้าเจอจริงๆในการจับกุมครั้งนี้ ควรยื่น หรือเปิดคลิปหลักฐานมาแสดงต่อศาล หรือสื่อต่างๆ
3. ตู้เซฟที่แจ้งว่า ยังไม่มีการเปิด รอแม่เสี่ยโป้เข้ามามอบตัว และมาเซ็นยินยอมนั้น ทำไมไม่ชี้แจงเรื่องจริงว่า เปิดไปตั้งแต่วันแรกที่กองปราบฯแล้ว แต่เปิดมาแล้วพบสร้อยทองคำสลึง 3 เส้น แต่กลับอ้างว่ายังไม่เปิด เพราะจะได้ทำให้สถานการณ์มันน่าตื่นเต้นขึ้น และให้คิดว่าทรัพย์สินก้อนโต ยังต้องอยู่ในเซฟใบนี้
4. ไปคุกคาม ตามหาคนรอบข้างที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้อง หรือกระทำความผิดใดๆ โดยไม่สนใจว่าครอบครัวของคนที่พวกคุณตามหา เพื่อหวังได้แค่ข้อมูลบางสิ่งบางอย่าง ทั้งที่เข้าก็ไม่มีข้อมูลที่คุณต้องการด้วยซ้ำ
5. ถ้าคุณเป็นกลางจริงๆ ทำอะไรว่าด้วยหลักฐาน จะกลัวอะไร จะคัดค้านการประกันตัวทำไม ในเมื่อที่ผ่านมาไม่ว่าจะคดีอะไร เสี่ยโป้และครอบครัว เข้ามอบตัวและรายงานตัวต่อศาลทุกครั้งไม่เคยหลบหนี
"ที่พิมพ์ถึงเรื่องนี้ ไม่ได้หวังจะเอาความดีมาหักล้าง แค่อยากจะขอความเป็นธรรมว่า ถ้าถามว่าทำไมแม่ถึงไม่เข้ามอบตัว ถ้าไม่ผิดจริงๆ เพราะคิดว่าเข้ามอบตัวก็ไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงแบบนี้ค่ะ ขอต่อสู้อยู่ด้านนอกแบบนี้ เพื่อแฉข้อมูลเท็จ ของตำรวจแบบนี้ดีกว่าค่ะ #ขอความเป็นธรรม"
รายงานข่าวแจ้งว่า นางบานเย็น มารดาเสี่ยโป้ ที่หลบหนีเงื้อมมือกฎหมายอยู่นั้นน่าจะเดินทางข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแล้ว โดยมีอดีตนายตำรวจคนดังเป็นผู้ประสานให้การช่วยเหลือ