xs
xsm
sm
md
lg

รวบกะเหรี่ยงขนหัวกระสุนกว่า 1 หมื่นนัด พร้อมสารทำดินปืนอีกอื้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพชรบุรี - เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน รวบกะเหรี่ยงขนหัวกระสุนกว่า 1 หมื่น พร้อมสารทำดินปืนอีกอื้อ ชาวบ้านประท้วงขอให้เจ้าหน้าที่ยุติการสกัดขนส่งเสบียงและตั้งจุดตรวจ      
วันนี้ (18 ก.พ.) เวลา 09.00 น. ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.ทรัพยากรฯ และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดี กรมอุทยานฯ ให้ดำเนินการกวาดล้างปราบปรามกลุ่มขบวนการตัดไม้ทำลายป่า ค้าและล่าสัตว์ป่าอย่างเข้มงวด  

โดยนายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผอ.ส่วนยุทธการป้องกันและปราบปราม สำนักป้องกัน ปราบปรามและควบคุมไฟป่า พร้อมด้วย น.ส.เนตรนภา งามเนตร ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และชุดพญาเสือ นำกำลังเจ้าหน้าที่ อช.แก่งกระจาน เจ้าหน้าที่ส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม สำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า   ได้ร่วมกันจับกุมนายตรีภพ ปราณดุก อายุ 35 ปี ชาวกะเหรี่ยง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

พร้อมด้วยของกลาง 1.ดินประสิวบรรจุในถุงพลาสติก จำนวน 5 ถุง ถุงละ 1 กิโลกรัม  2.ลูกตะกั่วลักษณะคล้ายเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก น้ำหนักรวมกว่า 6 กิโลกรัม ที่บรรจุอยู่ภายในกระสอบปุ๋ยสีขาว ซุกซ่อนปะปนมากับข้าวสารและอาหารแห้งบริเวณท้ายรถยนต์กระบะ 3.รถยนต์กระบะตอนครึ่ง สีเทา ยี่ห้อมิตซูบิชิ  ป้ายทะเบียน บม 2931 เพชรบุรี จำนวน 1 คัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ตามปกติ 

รวมทั้งตรวจคัดกรอง และให้ลงชื่อผู้ผ่านเข้าออกพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ กจ.6 (เขามะเร็ว) ม.3 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ขณะปฏิบัติหน้าที่ได้พบกับรถยนต์กระบะสีเทา 1 คันขับเข้ามา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอเข้าตรวจสอบรถคันดังกล่าว พบบุคคลจำนวน 5 คน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้บุคคลทั้งหมดลงจากรถลงมาคัดกรอง และลงชื่อผู้ผ่านเข้าออกเขตอุทยานฯ ตามมาตรการป้องกันการป้องกันโควิด-19 

และสอบถามถึงสาเหตุของการผ่านเข้าออกพื้นที่ ซึ่งทั้ง 5 รายได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่าจะนำข้าวสารและอาหารแห้งเข้าไปส่งที่ธนาคารข้าวภายในหมู่บ้านบางกลอย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พบด้านหลังรถกระบะบรรทุกข้าวสาร อาหารแห้ง และอุปกรณ์ต่างๆ มาเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบ พบของกลางเป็นดินประสิวบรรจุในถุงพลาสติกจำนวน 5 กิโลกรัม ลูกตะกั่วที่มีลักษณะที่คล้ายเครื่องกระสุนใช้กับอาวุธปืนแก๊ป หรืออาวุธปืนไทยประดิษฐ์ น้ำหนักกว่า 6 กิโลกรัม ตามที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯได้ดำเนินการตรวจยึดได้พร้อมอาวุธปืนแก๊ป อาวุธปืนไทยประดิษฐ์อยู่เป็นประจำ ซุกซ่อนปะปนมากับข้าวสารและอาหารแห้ง             

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกประวัติ นายตรีภพ ปราณดุก อายุ 35 ปี ไว้ก่อนปล่อยตัวไป พร้อมตรวจยึดของกลาง ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน เพื่อตรวจสอบของกลางว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่  ถ้าเข้าข่ายผิดกฎหมายจะเรียกตัว นายตรีภพ มาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป       

อีกทั้งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก ลูกตะกั่ว และดินปืนที่พร้อมใช้งาน ซากเก้ง สมบูรณ์อวัยวะส่วนต่างๆ ครบถ้วน น้ำหนัก 17 กก.มีร่องรอยรูที่เจาะทะลุด้วยกระสุนปืนบริเวณคอด้านขวา 1 นัด จำนวน 1 ตัว และอุปกรณ์การกระทำความผิดรวม 7 รายการ ขณะเดินลาดตระเวน และตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่อุทยานฯ โดยผู้ต้องหาได้อาศัยความชำนาญเส้นทางในป่าวิ่งหลบหนีไปในความมืด 

ขณะที่ได้เกิดเหตุการณ์ มีชาวบ้านบางกลอย จำนวน 14 คน มารวมตัวกันที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ กจ.6 (เขามะเร็ว) ภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมถือป้ายประท้วงขอให้เจ้าหน้าที่ยุติการสกัดการขนส่งเสบียง รวมถึงการตั้งจุดสกัดเดิม และที่จุดเพิ่มเติมขึ้นมาทั้งหมดในพื้นที่อุทยานฯ 

โดยชาวบ้านอ้างบันทึกข้อตกลงเพื่อแก้ไขปัญหากรณีบางกอย ใจแผ่นดิน ระหว่างตัวแทนรัฐบาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ภาคี SAVE บางกลอย และชาวกะเหรี่ยงบางกลอย ใน 6 ข้อเรียกร้องตามบันทึกข้อตกลง ทางด้านเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ชี้แจงกับชาวบ้านว่า บริเวณดังกล่าวเป็นด่านตรวจถาวร ของอุทยานฯ ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจปกติ 

เนื่องจากมีการประกาศปิดการท่องเที่ยว ตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กจ.10 (มะเร็ว) จึงต้องมีการตรวจคัดกรอง และลงชื่อผู้ผ่านเข้าออก พร้อมทำความเข้าใจกับกลุ่มชาวบ้านดังกล่าวถึงแนวทางการปฏิบัติ พบว่าเป็นเหตุเข้าใจคลาดเคลื่อน โดยกลุ่มชาวบ้านยินดี และยินยอมปฏิบัติตามกฎระเบียบ และแนวทางปฏิบัติของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานก่อนแยกย้ายกันกลับไป










กำลังโหลดความคิดเห็น