นครพนม - ตำรวจตั้งปมฆาตกรรมนายทหารหนุ่มยศร้อยตรี มทบ.210 ถูกยิงดับคาค่ายทหารไว้ 2 ประเด็นไม่ชู้สาวก็เกี่ยวโยงกับยาเสพติด มากกว่าความขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชา ขณะที่กล้องวงจรปิดจุดก่อเหตุชำรุดนานแล้ว เชื่อคนร้ายน่าจะเป็นคนในค่ายด้วยกันเพราะบุคคลภายนอกเข้าออกยาก
รายงานความคืบหน้านายทหารหนุ่มยศร้อยตรีค่ายพระยอดเมืองขวาง มทบ.210 ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิตบริเวณถนนด้านหลังค่ายพระยอดเมืองขวางภายในค่าย เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.คืนที่ผ่านมาแล้วหลบหนีไปได้ สร้างความอกสั่นขวัญแขวนแก่ผู้คนที่พักอาศัยอยู่ภายในค่ายเป็นอย่างมาก
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (11 ก.พ.) พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม มอบหมายให้ พ.ต.อ.ณัชวิชญ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม ประสานงานร่วมกับ พ.ต.ท.จิรุฏฐ์ พิมพา รอง ผกก.สืบสวนนครพนม พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และกองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อคลี่คลายคดี เพราะมือปืนอุกอาจมาก บุกยิง ร้อยตรี รุ่งเฉลิม พันธ์สวัสดิ์ อายุ 34 ปี หัวหน้าหมวดดุริยางค์ทหารเสียชีวิต ห่างจากบ้านพักเพียง 300 เมตร ขณะผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 100 ทะเบียน คขร 222 สงขลา กลับจากที่ทำงานเข้าบ้านพัก
จากการตรวจสอบพบว่าจุดเกิดเหตุค่อนข้างมืดไม่มีไฟส่องสว่าง ไม่มีเวรยามรักษาการณ์เพราะอยู่ด้านหลังค่าย คาดว่าคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกโม่ยิงเพราะตรวจสอบเก็บหลักฐานไม่พบปลอกกระสุน ส่วนเส้นทางหลบหนี มีช่องทางประตูรั้วลวดหนามออกด้านหลังเชื่อมไปยังพื้นที่หมู่บ้าน ต.กุรุคุ อ.เมืองนครพนม ที่สามารถหลบหนีได้
พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ เก็บหลักฐานเพิ่มเติม และสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่งได้ส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น เบื้องต้นตรวจสอบสภาพศพพบถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่ต้นคอด้านขวา 1 นัด และจุดใต้รักแร้ จำนวน 2 นัด รวมยิง 3 นัด แต่ไม่พบปลอกกระสุนตกในที่เกิดเหตุ เชื่อว่าเป็นอาวุธปืนลูกโม่ โดยทางตำรวจกำลังเร่งสอบสวนพยาน
เบื้องต้นผู้พบเห็นเหตุการณ์ให้การว่า คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์สีขาว ไม่ทราบยี่ห้อ และป้ายทะเบียน ขี่เข้ามาประกบยิงในระยะประชิด เชื่อว่ามีการเตรียมการมาก่อน
อีกทั้งยังชำนาญในเส้นทางหลบหนี สันนิษฐานว่าเป็นบุคคลภายในค่ายทหารเนื่องจากบุคคลภายนอกยากที่จะเข้าไปภายในค่าย มีการตรวจสอบบุคคลเข้าออกทางประตูด้านหน้า มีเพียงประตูด้านหลังที่เป็นช่องทางธรรมชาติในการหลบหนี
นอกจากนี้ยังพบว่าจุดเกิดเหตุกล้องวงจรปิดชำรุดมานานหลายเดือน ส่วนประเด็นการฆาตกรรมครั้งนี้ ตำรวจให้น้ำหนักความขัดแย้งส่วนตัว ปมชู้สาว รวมถึงยาเสพติด มากกว่าความขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชา แต่ตำรวจยังไม่ตัดทุกประเด็นทิ้ง ขอเวลาทำงาน เชื่อว่าอีกไม่นานจะสามารถจับตัวคนร้ายได้อย่างแน่นอน ยังรอการสอบสวนบุคคลใกล้ชิด รวมถึงพยานแวดล้อมอีกบางส่วน