บุรีรัมย์ - ลูกชายวัย 17 ปีชาวห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ร้องสื่อแม่วัย 44 ปีหายนาน 7 เดือนติดต่อไม่ได้ หวั่นถูกอุ้มล้างหนี้ได้รับอันตราย หลังคนในหมู่บ้านหลอกร่วมลงทุนทำธุรกิจเป็นหนี้หลายล้าน ทั้งกลัวถูกยึดบ้านที่ดินที่เอาไปจำนองไม่มีที่อยู่ ล่าสุด ตร.ตรวจสอบพบถูกฟ้องร้องคดีกู้ยืมเงิน คาดหนีไปเองไม่ได้ถูกลักพาและยังมีชีวิตอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเนรมิต หรือนพ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 ชาว ต.สนวน อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องเรียนให้ช่วยติดตามหา นางลัดดา หงส์สมศรี อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นมารดา หลังหายตัวออกจากบ้านไปนานเกือบ 7 เดือน โดยไม่รู้ว่าหายไปไหนหรือไปอยู่กับใครเพราะไม่สามารถติดต่อได้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยตามหา หรือหากใครพบเห็นก็ให้แจ้งเบาะแสเพราะกลัวแม่จะถูกอุ้มไปล้างหนี้หรือเป็นอันตราย เพราะก่อนแม่จะหายตัวไปได้ถูก นางวรรณา ชาวบ้านใน ต.สามแวง อ.ห้วยราช ซึ่งรู้จักกันหลอกให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจบางอย่างซึ่งทางครอบครัวไม่รู้ว่าเป็นธุรกิจอะไรจนเป็นหนี้หลักล้าน แถมยังถูกหลอกล่อให้เอาบ้านที่ครอบครัวอาศัยอยู่ปัจจุบัน และที่นาอีกแปลงไปจำนอง
นายเนรมิตเล่าว่า ก่อนที่แม่จะหายตัวไปเมื่อช่วงเดือน ก.พ. 2563 แม่ได้ร่วมลงทุนทำธุรกิจบางอย่างกับนางวรรณา โดยที่ครอบครัวก็ไม่รู้ว่าเป็นธุรกิจอะไรเพราะแม่ก็ไม่ได้บอก แต่แม่ได้โอนเงินเข้าบัญชีนางวรรณาครั้งละ 20,000-400,000 บาท หลายครั้งรวมเป็นเงินกว่า 3 ล้านบาท แล้วจู่ๆ แม่ก็นำโฉนดที่ดินเนื้อที่ 18 ไร่ และโฉนดบ้านที่อาศัยอยู่ปัจจุบันไปจำนองเพื่อนำเงินไปร่วมลงทุนเพิ่มอีก กระทั่งพ่อซึ่งทำงานอยู่ที่จังหวัดกระบี่ ได้โทรศัพท์มาเตือนและห้ามไม่ให้แม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะเกรงจะถูกหลอก แต่แม่ก็ไม่ฟัง จนพ่อกับแม่มีปากเสียงถึงขั้นหย่าร้างกัน แต่แม่ยังติดต่อกับนางวรรณาเหมือนเดิม
ต่อมาเมื่อเดือน เม.ย. 2563 แม่น่าจะเริ่มรู้ตัวว่าถูกนางวรรณาโกง จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.ห้วยราชให้เอาผิดนางวรรณา ฐานฉ้อโกง จากนั้นตำรวจก็ได้เรียกทั้งสองฝ่ายมาเจรจาไกล่เกลี่ยกัน โดยนางวรรณา นัดจ่ายเงินทั้งหมดคืนให้แม่ภายใน 3 เดือน แต่พอประมาณเดือนกรกฎาคม 2563 ก็มีข้อความส่งมาหาแม่ทางเฟซบุ๊กว่า “ให้ไปรับเงินทุนและกำไร รวม 48 ล้านบาท พร้อมทองคำน้ำหนัก 70 บาท ที่กรุงเทพฯ โดยนัดหมายกันวันที่ 28 ก.ค. 63
จากนั้นแม่บอกกับคนที่บ้านว่าจะไปเอาเงินที่กรุงเทพฯ แล้วหายไปเลยไม่ติดต่อกลับมาอีก จึงได้เข้าแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ห้วยราชเพื่อให้ช่วยติดตามหาแม่ เพราะทางครอบครัวเป็นห่วงไม่รู้ว่าแม่จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ซึ่งตนกลัวว่าแม่จะถูกเจ้าหนี้อุ้มไปแล้วทำอันตราย แต่หากแม่ยังมีชีวิตอยู่ให้ติดต่อกลับบ้าน เพราะขณะนี้ครอบครัวกำลังเดือดร้อนมาก เพราะนอกจากแม่จะกู้ยืมเงินไปร่วมลงทุนแล้ว ยังนำบ้านและที่นาไปจำนอง รวมประมาณ 6 ล้านบาท หากเดือน มี.ค. 2563 ที่จะถึงนี้ไม่มีเงินไปไถ่ถอนบ้านและที่ดินก็จะถูกยึด ทางครอบครัวจะไม่มีที่อยู่อาศัย อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามหาแม่
ขณะที่ล่าสุด พ.ต.อ.ประดิษฐ์ ทะประสิทธิ์จิตต์ ผู้กำกับการ สภ.ห้วยราช ได้สอบถามรายละเอียดจากลูกชาย ลูกสาว และอดีตสามีของนางลัดดาที่หายตัวไป พบว่านางลัดดา และนางวรรณา ถูกเจ้าหนี้ที่ทั้งสองไปกู้ยืมเงินมาฟ้องร้องให้ชำระหนี้คืน ทั้งพบว่าทั้งสองมีการลงทุนทำธุรกิจบางอย่างร่วมกันจนเป็นหนี้ จึงคาดว่านางลัดดาน่าจะหนีออกจากบ้านไปเองเพราะไม่มีเงินชำระหนี้สินที่ก่อขึ้น เชื่อว่าไม่น่าจะถูกอุ้มหรือลักพาตัวตามที่ครอบครัวกังวล และยังมีชีวิตอยู่แน่นอน เพราะจากการสอบถามลูกสาวคนเล็กก็ให้ข้อมูลว่าเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมาแม่ยังติดต่อผ่านเฟซบุ๊กมาหา
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะช่วยติดตามตัวนางลัดดาตามที่ทางครอบครัวแจ้งความคนหายไว้ ส่วนเรื่องคดีความที่ถูกฟ้องร้องนั้นต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน เป็นคนละส่วนกัน