xs
xsm
sm
md
lg

โวยโรงงานหลังคาเหล็กเผาขยะพิษ กอ.รมน.ร้อยเอ็ดบุกตรวจสอบ สั่งเด็ดขาดห้ามเผา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กอ.รมน.ร้อยเอ็ด สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบโรงงานหลังคาเหล็กแสงไทย พบว่ามีการเผาขยะพิษด้านหลังโรงงานจริง
ร้อยเอ็ด - กอ.รมน.ร้อยเอ็ด บุกโรงงานหลังคาเหล็ก หลังถูกชาวบ้านร้องเรียน เผาขยะพิษ ส่งกลิ่นรุนแรงกระทบชุมชนรอบข้าง ผลตรวจสอบพบเผาจริง พร้อมทำบันทึกข้อความ ให้ยุติเผาขยะอันตราย หากยังฝ่าฝืนพร้อมใช้กฎหมายลงโทษขั้นสูงสุด

เมื่อเร็วๆ นี้ พ.อ.ถอม วงศ์สีมา ผอ.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดร้อยเอ็ด (กอ.รมน.) พร้อมด้วยนายสายยนต์ สีหาบัว ผู้อำนวยการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดร้อยเอ็ด และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด งานป้องกันฯ เทศบาลรอบเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด สนธิกำลังเข้าตรวจสอบโรงงานหลังคาเหล็กแสงไทย โดยเข้าพบนายวุฒิชัย ธรรมเจดีย์ ผู้จัดการโรงงานหลังคาเหล็กแสงไทย


ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 146 หมู่ 13 บ้านเปลือยนอก ตำบลรอบเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด เพื่อตรวจสอบการลักลอบเผาขยะ สารพิษ ส่งกลิ่นเหม็น รบกวนประชาชน ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ว่าได้รับความเดือดร้อน จากการเผาขยะของโรงงานดังกล่าว พร้อมกับเรียกร้องให้ส่วนราชการ เข้าไปตรวจสอบ และขอให้ยุติการเผาขยะเศษวัสดุเหลือใช้ ที่โรงงานแห่งนี้ทำการเผาบริเวณด้านหลังโรงงานทุกวัน

จากการสอบถามเจ้าของโรงงานดังกล่าว ยอมรับว่ามีการเผาขยะ เศษซากวัสดุ ที่เป็นไนลอน เศษพลาสติก และถุงพลาสติกเหลือใช้ ของโรงงานจริง พร้อมกับพาไปดูสถานที่เผาขยะ ซึ่งจากการตรวจสอบยังคงมีการเผาเศษซากวัสดุถุงพลาสติก ส่งกลิ่นเหม็นรุนแรง ก่ออันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ ทั้งยังเกิดกลุ่มควัน กระทบสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้ดับไฟ และกำชับให้ยุติการเผาเศษซากวัสดุ ที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน

ภายหลังการตรวจสอบเป็นที่ชัดเจนว่าโรงงานได้เผาขยะจริง เจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกข้อความ ให้เจ้าของโรงงานลงนาม ยอมรับว่ามีการเผาเศษซากวัสดุ ขยะอันตรายจริง พร้อมกับให้ลงนาม ยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ โดยให้ยุติการเผาขยะโดยเด็ดขาด




ด้านนายสายยนต์ สีหาบัว ผู้อำนวยการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่าจากการตรวจสอบ เมื่อเจ้าของโรงงานยอมรับว่ามีการเผาขยะ ทั้งยังก่อมลพิษส่งผลกระทบต่อชุมชนจริงและยอมลงนามในบันทึกว่าจะยุติ จึงได้มีการลงโทษ หรือบังคับใช้กฎหมาย สามารถปรับได้ 2,000 บาทตามที่กฎหมายกำหนด

พร้อมกับได้บันทึก ว่ากล่าวตักเตือนแทน ให้ใช้มาตรการอื่นเข้ามาแก้ปัญหา โดยติดต่อชาวบ้านที่เก็บขยะมาเก็บไปขายให้คนจนเกิดรายได้ หรือไม่เช่นนั้น ก็ใช้วิธีการกำจัดขยะด้านอื่น ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแทน ขณะเดียวกันได้ประสานกับเทศบาลรอบเมือง เข้ามาขนขยะไปทำลายตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ไม่ให้เกิดผลกระทบด้านฝุ่นควันและสารพิษ




ทั้งนี้ หากโรงงานแห่งนี้ยังมีการฝ่าฝืนทำการเผาขยะ มีประชาชนร้องเรียนเกิดขึ้นอีก ทางหน่วยงานรัฐจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดทางกฎหมายเข้ามาดำเนินการ เจ้าของโงรงานแห่งนี้จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายสูงสุด ซึ่งมีโทษทั้งจำทั้งปรับต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น