กาญจนบุรี - หนุ่มนักท่องเที่ยวซิ่งเก๋งฝ่าความมืดชนเลียงผาร่างกระเด็นเสียชีวิต พบเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามอบตัวสู้คดีแล้ว รับมองไม่เห็นเหตุถนนมืด และไม่ได้คิดหนี หลังเกิดเหตุเป็นคนโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเลียงผาด้วยตนเอง
จากกรณีคนขับรถยนต์กระบะพุ่งชนเลียงผาสัตว์ป่าสงวนเสียชีวิต เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 22.00 น.ของวันที่ 29 ม.ค.ที่บริเวณโค้งเขาเรดาร์ ถนนสายกาญจนบุรี-บ้านเก่า ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์กาญจนบุรี เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.สงวนคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 มาตรา 12 ในข้อหาล่าหรือทำอันตรายแก่เลียงผาสัตว์ป่าสงวนถึงแก่ความตาย โดยการขับรถยนต์ชนแล้วหนี ระวางโทษจำคุก 3-15 ปี ปรับตั้งแต่ 300,000-1,500,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
และผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 78 ผู้ใดขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น (เลียงผาถือว่าเป็นทรัพย์สินของรัฐ) ไม่ว่าจะเป็นความผิดของผู้ขับขี่หรือไม่ก็ตามต้องหยุดรถ และให้ความช่วยเหลือตามสมควรและพร้อมทั้งแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที ในกรณีไม่มีผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด เมื่อเวลา 18.30 น.วันนี้ (31 ม.ค.) นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้เข้าพบ พ.ต.ต.สมบุญ ภัทรวงษ์วิเศษ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ร้อยเวรเจ้าของคดีเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนถ่ายภาพภายในห้องพนักงานสอบสวน โดยนายนิพนธ์ ได้ใช้เวลาพูดคุยกับพนักงานสอบสวน ประมาณ 30 นาทีจึงแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยภายหลังว่า คดีข้างต้นนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ให้ความสำคัญต่อคดีเป็นอย่างมาก อีกทั้งประชาชนและสื่อมวลชนก็ให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน
โดยในวันนี้นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส.ได้สั่งการให้ตนเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ที่เป็นเจ้าของคดี จากการพูดคุยทราบว่า ผู้กระทำผิดนั้นได้เดินทางมามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอสู้คดีแล้ว โดยผู้กระทำผิดทราบชื่อคือนายกันตวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุประมาณ 40-45 ปี เป็นนักท่องเที่ยวชาว กทม.
ซึ่งผู้กระทำผิดได้แจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะขับรถยนต์ชนเลียงผาแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุนั้นเกิดจากเส้นทางดังกล่าวนั้นมืดเพราะเป็นช่วงเวลากลางคืน ประกอบกับเป็นทางโค้ง จึงทำให้มองไม่เห็นเลียงผาตัวดังกล่าว โดยหลังจากเกิดเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน อีกทั้งยังเป็นคนโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือเลียงผาอีกด้วย แต่เมื่อสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวออกไป ผู้กระทำผิดรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก จึงรีบเดินทางมามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ส่วนแนวทางของคดีจากนี้ไปเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรีเป็นผู้ดำเนินการต่อไป
สำหรับเลียงผาตัวดังกล่าวพบว่าเป็นเพศผู้ อายุประมาณ 5-6 ปี หนักประมาณ 70-80 กิโลกรัม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำเรื่องขออนุญาตพนักงานสอบสวน นำซากไปฝังทำลายภายในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์กาญจนบุรีแล้ว ส่วนรถยนต์ที่ชนครั้งแรกแจ้งว่าเป็นรถยนต์กระบะ แต่ต่อมาทราบข้อเท็จจริงเป็นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมาสด้า สีขาว ได้รับความเสียหายเล็กน้อย
ทั้งนี้ อยากจะฝากเตือนไปถึงประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวที่ขับรถในช่วงเวลากลางคืนไปตามเส้นทางต่างๆ ขออย่าได้ขับด้วยความเร็วสูง เพราะช่วงนี้เป็นช่วงฤดูร้อนแล้ว น้ำที่ที่เป็นแหล่งอาสัตว์สัตว์ป่าก็เริ่มแห้งขอด ทำให้สัตว์ป่ารวมทั้งช้างป่าเริ่มออกมาหาแหล่งน้ำนอกพื้นที่ ซึ่งจะต้องเดินข้ามถนน หากไม่มีความระมัดระวังก็อาจจะเกิดอันตรายต่อตัวผู้ขับขี่และสัตว์ป่าด้วย
