xs
xsm
sm
md
lg

กาฬสินธุ์เริ่มแล้ง เกษตรกรต้องใช้น้ำทิ้งจากบ่อกุ้งหล่อเลี้ยงข้าวนาปรัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาฬสินธุ์ - ชาวนาในอำเภอกมลาไสย อ.ฆ้องชัย และยางตลาด พื้นที่นอกเขตคลองชลประทานสายหลักสูบน้ำฝนที่กักเก็บตามบ่อในพื้นที่นาและน้ำทิ้งจากบ่อเลี้ยงกุ้งเข้าใส่แปลงนา เพื่อหว่านเมล็ดพันธุ์และหล่อเลี้ยงต้นข้าวนาปรังให้รอดตาย ขณะที่น้ำเขื่อนลำปาวตอนนี้เหลือเพียง 854 ลบ.ม. หรือคิดเป็น 43% จากความจุ 1,980 ลบ.ม.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพของเกษตรกรชาวกาฬสินธุ์ในช่วงฤดูแล้ง พบว่าในกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังในเขต อ.กมลาไสย อ.ฆ้องชัย และ อ.ยางตลาด ที่อยู่ในพื้นที่ราบลุ่ม และกักเก็บน้ำฝนไว้ตามบ่อในแปลงนาต่างลงมือหว่านเมล็ดพันธุ์ และสูบน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังแตกหน่อกันอย่างคึกคัก ขณะที่ชาวนาที่อยู่พื้นที่ห่างไกลคลองชลประทานต้องขาดโอกาสในการทำนาปรัง เนื่องจากปีนี้ปริมาณฝนน้อย และฝนทิ้งช่วง ส่งผลให้น้ำเขื่อนลำปาวเหลือน้อย อาจไม่เพียงพอและส่งผลให้ข้าวนาปรังเสียหาย

นายสุนทร ภูฉายา ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลบัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาวที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนทิ้งช่วง ไม่มีน้ำเติมเข้าอ่าง ปัจจุบันเหลือเพียง 854 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 43% จากความจุ 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ จากการเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการจัดการชลประทาน (JMC) ที่เขื่อนลำปาว ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แจ้งเตือนเกษตรกรทั้งกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์น้ำและผู้ปลูกข้าวระมัดระวังใช้น้ำ รวมทั้งให้ลดพื้นที่เลี้ยงกุ้งเลี้ยงปลาและทำนาปรัง เพื่อป้องกันความเสียหายจากกรณีขาดแคลนน้ำด้วย


นายสุนทรกล่าวอีกว่า ในภาพรวมพบว่าเกษตรกรมีการปรับตัวตามสถานการณ์ โดยลดพื้นที่ประกอบอาชีพดังกล่าว สำหรับตนและชาวนาในพื้นที่ห่างไกลคลองชลประทานสายหลักในเขต อ.กมลาไสย อ.ฆ้องชัย และ อ.ยางตลาด ซึ่งได้รับน้ำไม่เพียงพอ แต่มีความจำเป็นต้องทำนาปรังเพื่อยังชีพในครัวเรือนและจำหน่าย อาศัยน้ำฝนที่กักเก็บไว้ในบ่อกลางแปลงนา และสูบน้ำจากคลองไส้ไก่ ซึ่งเป็นน้ำทิ้งจากบ่อเลี้ยงกุ้งของเพื่อนบ้านเข้าหล่อเลี้ยงต้นข้าว ทำให้ชาวนาต้องสิ้นเปลืองต้นทุนการผลิตด้านค่าน้ำมันเพิ่มอีก

ทั้งยังต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งรถไถ ค่าปุ๋ยค่ายาที่ราคาแพง แต่ก็จำเป็นต้องลงทุน เพราะหากไม่ทำนาก็ไมรู้จะทำอะไรเนื่องจากเป็นอาชีพหลัก จึงอยากเรียกร้องส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาควบคุมราคาปุ๋ยยา ช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยว และปรับราคารับซื้อข้าวเปลือกให้สูงขึ้นด้วย เพราะราคาข้าวเปลือกนาปีที่ผ่านมาตกต่ำมาก ทำให้ชาวนาประสบปัญหาขาดทุนซ้ำซาก


กำลังโหลดความคิดเห็น