พิจิตร - แม่น้ำยมเมืองชาละวันแทบสิ้นสภาพ..ล่าสุดแห้งขอดเหลือแต่ท้องทรายกับน้ำติดก้นบ่อตลอดสายซ้ำอีก ชาววังจิกต้องลงทุนจ้างเจาะบ่อบาดาลสูบน้ำใต้ดินทำนาปรังแทบทั่วหน้า
ขณะนี้แม่น้ำยม บริเวณหน้าวัดวังเทโพ หมู่ 3 บ้านวังเทโพ ต.วังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร กลับสู่สภาพแห้งขอดเหลือแต่ท้องทรายเป็นทางยาว มีน้ำเหลือค้างบริเวณหลุมบ่อเล็กๆ ที่เคยอยู่ใต้ท้องน้ำมาก่อนหน้านี้เท่านั้น เรียกได้ว่าแทบสิ้นสภาพความเป็นแม่น้ำไปแล้ว
นายประชิน ขวัญเมือง อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านวังเทโพ ให้ข้อมูลว่า รอบนี้น้ำในแม่น้ำยมแห้งขอดตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธันวาคม 63 ซึ่งสถานการณ์แบบนี้เกิดติดต่อกันมายาวนานหลายสิบปีแล้ว ทำให้ชาวนาที่เคยพึ่งพาน้ำจากแม่น้ำยมทำนาปรังต่างเดือดร้อนกันทั่วหน้า ต้องหาทางสู้กับภัยแล้งด้วยการลงทุนเจาะบ่อน้ำบาดาลเพื่อเอาน้ำใต้ดินมาใช้ ส่วนน้ำอุปโภคบริโภคของชาวบ้าน 89 หลังคาเรือน ประชากรประมาณ 289 คน ก็ใช้น้ำประปาหมู่บ้าน ซึ่งสูบน้ำจากน้ำบาดาลเช่นกัน
ด้าน พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ นิลจันทร์ รอง ผอ.รมน.จว.พิจิตร หลังลงพื้นที่ตามข้อสั่งการของแม่ทัพภาคที่ 3 เพื่อสำรวจและหาแนวทางช่วยเหลือในระยะสั้น-ระยะยาว ระบุว่าจะต้องแก้ไขปัญหาในภาพรวมของแม่น้ำยม แม่น้ำน่าน แม่น้ำพิจิตร บึงสีไฟ คลองชลประทาน หาทางให้แหล่งน้ำดังกล่าวสามารถเชื่อมต่อกันเพื่อผันน้ำช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างมั่นคงยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังน้ำในแม่น้ำยมแห้งขอดซ้ำซากทุกปี กลายเป็นโอกาสของผู้มีอาชีพเจาะบ่อน้ำบาดาล เพราะเกษตรกรต่างพากันเข้าคิวว่าจ้างเจาะบาดาลสูบน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ทำนา ซึ่งพื้นที่ฝั่งขวาของแม่น้ำยมหรือแถบบ้านวังเทโพแห่งนี้เมื่อเจาะบ่อบาดาลลึกลงไปใต้ดินประมาณ 30 เมตรก็จะเจอตาน้ำและสามารถสูบน้ำขึ้นมาใช้ทำนาได้