xs
xsm
sm
md
lg

ยายบุรีรัมย์แฉ! ถูกขู่ไม่จ่ายคืนเงินเบี้ยคนชราจะถูกฟ้องยึดบ้าน กลัวไม่มีที่อยู่จึงต้องจำยอมผ่อนจ่าย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นางทองสี รัตนภักดี อายุ 78 ปี ชาวตำบลโนนดินแดง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์
บุรีรัมย์ - โผล่ต่อเนื่อง คุณยายวัย 78 ปีชาว อ.โนนดินแดง บุรีรัมย์ ถูกเทศบาลเรียกเบี้ยคนชราคืนย้อนหลัง 13 ปีพร้อมดอกเบี้ยร่วมแสน ยายเผยแทบช็อกหลังมี จนท.ถือหนังสือมาแจ้งทั้งขู่หากไม่จ่ายจะถูกฟ้องยึดบ้าน กลัวไม่มีที่อยู่จึงจำเป็นต้องจำยอมจ่ายขอผ่อนเดือนละ 1,800 บาท วอนภาครัฐช่วยเหลือ

วันนี้ (28 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในอำเภอโนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ว่า มีผู้สูงอายุอีกรายที่ถูกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเรียกเก็บเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หรือเบี้ยคนชรา คืนพร้อมดอกเบี้ยเป็นเงินเกือบ 100,000 บาท จึงเดินทางไปตรวจสอบ ได้พบกับ นางทองสี รัตนภักดี อายุ 78 ปี ชาวตำบลโนนดินแดง อ.โนนดินแดง เล่าให้ฟังว่า ตนมีลูกทั้งหมด 7 คน เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2524 อาสาสมัครทหารพราน ทองดี รัตนภักดี ซึ่งเป็นลูกชายคนโต ได้เสียชีวิตที่อำเภอเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ หลังจากนั้นประมาณ 5-6 ปีได้รับเงินบำนาญพิเศษเดือนแรกโอนเข้าบัญชี 600 บาท หลังจากนั้นได้รับเดือนละ 5,000 บาท ปรับเป็น 7,000 8,000 9,000 บาทตามลำดับ และเพิ่งมาปรับเป็น 10,000 บาทเมื่อประมาณกลางปี 2563


หลังจากนั้นก็ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเมื่อประมาณปลายปี 2549 จนถึงปี 2562 รวม 13 ปี กระทั่งมีเจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลโนนดินแดงนำหนังสือมาแจ้งที่บ้านว่าตนได้รับเงินเบี้ยผู้สูงอายุซ้ำซ้อนกับเงินบำนาญของลูกชายที่เสียชีวิต จึงถูกระงับเบี้ยผู้สูงอายุ และถูกเรียกเงินเบี้ยผู้สูงอายุคืนทั้งหมด 97,400 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 ต่อปี โดยเจ้าหน้าที่บอกว่าหากไม่ชำระคืนจะถูกฟ้องยึดทรัพย์ ตอนนั้นก็ตกใจมากแทบช็อกเพราะกลัวจะถูกยึดบ้านแล้วจะไปอาศัยที่ไหน จึงตัดสินใจยอมเซ็นรับชำระเบี้ยผู้สูงอายุคืนตามที่ถูกเทศบาลเรียกเก็บ

โดยเจ้าหน้าที่ได้เรียกเก็บก้อนแรกเป็นเงิน 19,840 บาท เมื่อเดือน พ.ย. 2563 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นให้ชำระเป็นเดือน เดือนละ 1,800 บาท เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยยอมเอาเงินที่ตนเองได้รับบำนาญของลูกชายที่เสียชีวิตไปจ่าย เพราะหากไม่จ่ายก็กลัวจะถูกฟ้องยึดบ้าน แต่สิ่งที่กังวลตอนนี้คือตนอายุมากแล้วและป่วยหลายโรค เกรงว่าหากตนเสียชีวิตลงแล้วเงินบำนาญต้องถูกตัด แต่เงินเบี้ยคนชราที่ทางเทศบาลเรียกคืนก็ยังต้องจ่ายก็จะเป็นภาระของลูกๆ ซึ่งตอนนี้แต่ละคนก็หากินลำบากอยู่แล้วจากพิษโควิด จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาตรวจสอบและช่วยเหลือด้วย หากเป็นไปได้ไม่ควรจะเรียกเก็บคืนเพราะไม่ใช่ความผิดของตน


จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ขณะนี้มีผู้สูงอายุที่ถูกเทศบาล และ อบต.เรียกเงินเบี้ยผู้สูงอายุคืนแล้วจำนวน 3 ราย ในพื้นที่ อ.นางรอง เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดออกมาให้ความชัดเจนว่าจะมีแนวทางช่วยเหลืออย่างไร ทำให้ผู้สูงอายุยังมีความกังวลเฉพาะหากตนเองซึ่งมีชื่อเป็นผู้รับเงินบำนาญกรณีพิเศษจากลูกที่รับราชการทหาร หรือตำรวจแล้วเสียชีวิต แต่หากตนเองเสียชีวิตจะถูกตัดเงินบำนาญพิเศษดังกล่าว แต่เบี้ยยังชีพที่ถูกเรียกคืนทายาทกลับยังต้องรับภาระชดใช้ต่อจนครบทั้งหมด จึงอยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น