ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ พร้อมปรับมาตรการป้องกันโควิด-19 หลังปลอดผู้ติดเชื้อนานเกือบเดือน ยังคุมเข้มแรงงานต่างด้าวเถื่อน หากพบสั่งให้ผลักดันออกนอกประเทศทันที
วันนี้ (27 ม.ค.) นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการตรวจเชิงรุกค้นหากลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง เช่น กลุ่มแรงงานต่างด้าวในสถานประกอบการ ผู้ต้องขังรายใหม่ในเรือนจำ คนต่างด้าวที่ลักลอบเข้าประเทศ ปัจจุบันยังไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเวลา 24 วัน หลังจากตรวจพบผู้ติดเชื้อ 1 รายที่ อ.หัวหิน ในการระบาดระลอกใหม่
ขณะที่สถานการณ์ในพื้นที่มีแนวโน้มดีขึ้น เป็นสัญญาณที่ดีที่จะได้รับการปรับให้อยู่ในพื้นที่เฝ้าระวัง จากพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด จากนั้นจะมีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เพื่อพิจารณาปรับมาตรการที่จะออกบังคับใช้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะต้องสอดคล้องกับแนวทางที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือ ศบค.กำหนด และคำนึงผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ
นายพัลลภ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการเฝ้าระวังป้องกันคนต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ การตั้งจุดตรวจในพื้นที่ตำบลติดชายแดน รวมถึงการตั้งจุดตรวจคัดกรองโควิด-19 บนเส้นทางสายหลัก เส้นทางสายรอง และการปราบปรามผู้ลักลอบเล่นการพนันจะดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อไป
ด้านแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจชายแดนในพื้นที่ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า ปัจจุบันใน อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ มีการตั้งด่านตรวจ 11 จุด 24 ชั่วโมง เพื่อให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ ชรบ.และ อสม.ป้องกันแรงงานต่างด้าวเถื่อนหลบหนีเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยมีคำสั่งให้ปฏิบัติงานอย่างเข้มงวด แต่ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้ผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวเถื่อนที่หลบหนีเข้าเมืองมีโอกาสรายงานตัวก่อนเวลาที่กำหนดผ่อนผัน เพื่อให้เป็นแรงงานถูกกฎหมายในประเทศ ถือเป็นการส่งเสริมขบวนการค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติ นำแรงงานเถื่อนข้ามชายแดนเข้ามาทุกช่องทาง ขณะที่การจับกุมต่างด่าวเถื่อน ล่าสุดได้รับคำสั่งให้ผลักดันออกนอกประเทศทันที ซึ่งยอมรับว่ามีปัญหาในทางปฏิบัติ