เลย - ร้านชาบูแฉกลโกงลูกค้าหนุ่ม กินเสร็จขอจ่ายสแกนคิวอาร์โค้ด แต่กลับเปิดสลิปปลอมที่ถ่ายเตรียมไว้ให้พนักงานดูตบตาว่าโอนแล้ว หลังร้านปิดเจ้าของร้านเคลียร์รายรับถึงรู้ถูกโกง เผยชายรายนี้เคยโกงมาแล้วก่อนหน้านี้ ยอด 576 บาทแต่โอนให้แค่บาทเดียว
แฟนเพจร้านชาบูชื่อ ซิกซ์ตี้ทู บีบีคิว สาขาเลย ได้โพสต์ภาพชายหนุ่มรายหนึ่งขณะยืนรอชำระเงินค่าอาหารในร้าน พร้อมข้อความระบุว่า ถูกชายคนดังกล่าวโกง ไม่ยอมจ่ายเงินสด สแกนคิวอาร์โค้ด แต่เงินไม่เข้า พร้อมเรียกร้องให้กลับมารับผิดชอบในสิ่งที่ทำ ซึ่งเป็นการกระทำผิดซ้ำครั้งที่ 2 ครั้งแรกโอนแค่ 1 บาท จากยอดจ่ายจริง 576 บาท
ต่อมาเมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเจริญรัฐ ย่านตลาดเย็นบ้านติ้ว ต.กุดป่อง อ.เมืองเลย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง
นางสาวสุธิดา สาริมา พนักงานเก็บเงินของร้าน เล่าว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.30 น. ลูกค้าเป็นผู้ชายสองคนเข้ามารับประทานชาบู เมื่อรับประทานเสร็จก็เรียกให้ไปคิดเงิน เป็นยอด 576 บาท ขอจ่ายเงินแบบโอนออนไลน์ ทำทีสแกนคิวอาร์โค้ดที่หน้าเคาน์เตอร์แล้วแสดงหน้าโอนเงินให้ดู แล้วก็เดินออกไป ตนมารู้จากเจ้าของร้านทีหลังว่าไม่มียอดเงินจำนวนดังกล่าวโอนเข้าบัญชีเลย
ด้านนายประสิทธิ์ ฤทธิจอหอ ผู้จัดการร้าน เปิดเผยว่า ชายสองคนนี้เข้ามารับประทานอาหารในร้านบ่อย ราว 5-6 ครั้งแล้ว แรกๆ ก็จ่ายเป็นเงินสด ไม่มีปัญหาอะไร แต่สองครั้งหลังสุดจ่ายแค่ 1 บาท เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 จากยอด 576 บาท พร้อมขอถ่ายรูปสลิปไว้ด้วย เมื่อ 2 วันก่อนก็กลับมาอีก ตนก็สังเกตเห็นว่ามีพฤติกรรมแปลกๆ ขอจ่ายเงินแบบออนไลน์ แต่ยังไม่โอน ขอใช้แท็บเล็ตถ่ายรูปสลิปไว้ก่อน อ้างว่ากลัวแบตเตอรี่จะหมด
อีกทั้งขณะที่นั่งรับประทานชาบู ชายคนนี้มักเดินเข้าห้องน้ำบ่อยๆ โดยเอาแท็บเล็ตไปด้วยทุกครั้ง ตนจึงเชื่อว่ามีการนำเอาภาพถ่ายสลิปเปลี่ยนแปลงให้เป็นยอด 576 บาท บันทึกเป็นภาพซ่อนไว้ในเครื่อง เมื่อมาจ่ายเงินหน้าเคาน์เตอร์ก็ทำทีเป็นสแกนคิวอาร์โค้ดแล้วเปิดภาพสลิปที่เตรียมไว้ในแท็บเล็ตมาแสดงให้พนักงานดู ส่วนเพื่อนอีกคนก็เดินออกไปรอนอกร้านก่อนแล้ว ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกการกระทำไว้อย่างชัดเจน
ด้านเจ้าของร้าน (ไม่ประสงค์ออกนาม) บอกว่า ช่วงเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในร้าน หลังจากปิดร้านก็มาเช็กยอดเงินที่ลูกค้าจ่ายแบบออนไลน์ กลับไม่พบยอดเงินจากโต๊ะที่ผู้ชายสองคนนี้เข้ามาสั่งรับประทานชาบู มีเพียง 2 โต๊ะที่มียอดเดียวกันโอนเข้ามา เมื่อมาตรวจดูกล้องวงจรปิดก็พบว่าชายคนนี้มีท่าทางพิรุธ นำสลิปปลอมที่บันทึกเป็นภาพเปิดออกมาให้พนักงานดูหลอกว่าโอนแล้ว พนักงานหญิงคนนี้เป็นน้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงาน มีความเกรงใจไม่กล้าทวงถาม หรือขอตรวจสอบยอดเงินว่าเข้าบัญชีตนจริงหรือไม่
เจ้าของร้านเล่าอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่าชายสองคนนี้เคยก่อเหตุแบบเดียวกันที่ร้านตนเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 มาแล้ว คราวนั้นโอนเงินเข้ามา 1 บาท แต่ไม่ได้ติดใจเอาความเพราะคิดว่าอาจเกิดจากความผิดพลาดของทางร้านเอง แต่ครั้งนี้กลับมาทำอีก ตนก็ยังคิดว่าคงไม่ใช่ความผิดของลูกค้า แต่เมื่อมาตรวจสอบทุกอย่างแล้วพบว่าถูกฉ้อโกงแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เจ้าของร้านบอกว่า หลังจากที่โพสต์ลงไปในแฟนเพจของร้านแล้วผู้ก่อเหตุยังไม่ติดต่อกลับมารับผิดชอบใดๆ ซึ่งถือว่าเป็นการซ้ำเติมทุกข์ของคนค้าขายที่ต้องหากินลำบากในช่วงโควิด แม้เป็นจำนวนเงินไม่มาก
แต่อยากแจ้งเตือนภัยให้ร้านค้าหรือร้านอาหารอื่นๆ ระวังการกระทำของสองคนนี้ หากยังไม่ติดต่อเข้ามา ตนจะไปแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด