ประจวบคีรีขันธ์ - เจ้าหน้าที่ตำรวจจ่อนำลูกจ้างสาวสำนักงานจังหวัดประจวบฯ โกงเงินหลวง 40 ล้านบาท ส่งอัยการคดีทุจริตภาค 7 สั่งฟ้อง หลังพ้นคุกนาน 4 เดือน
จากกรณี น.ส.ขนิษฐา หอยทอง อายุ 28 ปี อดีตพนักงานราชการ สำนักงาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกแจ้งดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ ปลอมเอกสารของทางราชการ และใช้เอกสารปลอม เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2563 หลังจากนำเงินงบประมาณของทางราชการกว่า 40 ล้านบาท โอนผ่านระบบการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ GFMIS เข้าบัญชีส่วนตัว และพบการกระทำความผิด 165 ครั้ง เพื่อนำเงินไปเล่นพนันออนไลน์ ต่อมา พนักงานอัยการคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จ.สมุทรสงคราม มีคำสั่งปล่อยตัว น.ส.ขนิษฐา หอยทอง พ้นการคุมขังจากเรือนจำกลาง จ.สมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2563 เนื่องจากพนักงานอัยการยังไม่รับฟ้องคดี หลังครบกำหนดฝากขัง 7 ผลัด รวม 84 วัน ทำให้ น.ส.ขนิษฐา ได้รับการปล่อยตัวนานกว่า 4 เดือน
ล่าสุด วันนี้ (24 ม.ค.) พ.ต.อ.เสมอ อยู่สำราญ ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนที่เกี่ยวข้องรวมทั้งเอกสารหลักฐานทั้งหมดจากการสอบสวนเพิ่มเติมให้พนักงานอัยการ พนักงานอัยการนัดให้นำผู้ต้องหา 3 รายไปรายงานตัวเพื่อฟังคำสั่งฟ้องต่อศาลคดีทุจริตภาค 7 ในวันที่ 26 ม.ค.ประกอบด้วย น.ส.ขนิษฐา ซึ่งให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา น.ส.สายพิณ ดิบดีพร้อม มารดา น.ส.ขนิษฐา ซึ่งทั้ง 2 ราย ยังไม่มีพฤติกรรมหลบหนี รวมทั้งนางประชิต วงศ์ประภารัตน์ หัวหน้างานการเงินและบัญชี สำนักงานจังหวัด ถูกแจ้งดำเนินคดีในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
พ.ต.อ.เสมอ กล่าวอีกว่า สำหรับสำนวนที่นำเสนอที่มีสำเนาเอกสารจำนวนมาก เชื่อว่าพนักงานอัยการสามารถพิจารณาสั่งฟ้องได้ เนื่องจากไม่ได้เชิญทีมพนักงานสอบสวนเดินทางไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนการติดตามความคืบหน้าของคดี กรณีผู้ต้องหาสารภาพนำเงินจากการทุจริตไปเล่นการพนันออนไลน์ ขณะนี้พบผู้ต้องสงสัย 2 รายที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์มีภูมิลำเนาในพื้นที่ จ.เชียงราย มีความเชื่อมโยงกับ น.ส.ขนิษฐา อย่างชัดเจน พนักงานสอบสวนจึงออกหมายเรียกมาให้ปากคำ
จ่าเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนหลังจากมีคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งให้นางประชิต ไปทำหน้าที่อื่น แต่มีเบาะแสแจ้งว่าปัจจุบันยังปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับงานการเงิน ล่าสุด จะสอบถามผ่านศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้ผู้บริหารระดับจังหวัดชี้แจงข้อเท็จจริงว่ามีข้อเท็จจริงตามที่มีการร้องเรียนหรือไม่ และจะสอบถามความคืบหน้า กรณีจังหวัดส่งรายงานของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงการทุจริต ถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 จากนั้นกระทรวงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจากส่วนกลางเพื่อสอบสวนทางวินัยกับข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย หัวหน้าสำนักงานจังหวัด หัวหน้างานการเงิน หรือเจ้าหน้าที่รายอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
“ผู้บริหารระดับจังหวัดไม่เคยออกมาชี้แจงความคืบหน้าจากผลการสอบสวนให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดจากความบกพร่อง ทำให้เกิดความเสียหายในการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน มีผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง และขณะนี้การสอบสวนใช้เวลานานหลายเดือน ผู้เกี่ยวข้องควรมีข้อสรุปว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเข้าข่ายประมาทเลินเล่อมีความผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่ รวมทั้งแนวทางการสอบสวนทางละเมิดเพื่อชดใช้ความเสียหายให้แก่ทางราชการ” จ.อ.เสกสรรค์ กล่าว