ศรีสะเกษ - ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยเหลือ ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและธนาคารไปช่วยสองตายายศรีสะเกษโดนพิษโควิด-19 ไร้ที่พึ่ง ประกาศขายดวงตาใช้หนี้และประทังชีวิต ผู้ใจบุญแห่บริจาคเงินช่วยเหลือแล้วกว่า 50,000 บาท คุณยายซึ้งน้ำใจกราบขอบคุณพร้อมปิดรับบริจาคและยกเลิกขายดวงตาแล้ว
วันนี้ (21 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ นางฮอง ก่ำเกลี้ยง อายุ 72 ปี พร้อมด้วย นายบุญเชี่ยว สินสวัสดิ์ อายุ 74 ปี สองสามีภรรยาชาว อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ประกอบอาชีพค้าขายขนมโบราณ ขนมหูช้าง และข้าวเกรียบกุ้ง ได้เขียนจดหมายเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือต่อผู้สื่อข่าวเพื่อขอให้เป็นสื่อกลางไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้ใจบุญ ถึงปัญหาความเดือดร้อนไร้ที่พึ่งของตนกับสามี เนื่องจากเจอปัญหาโรคโควิด-19 ระบาดรอบ 2 ส่งผลทำให้การค้าขายขนมถดถอย ขายของไม่ค่อยได้เลย เงินไม่มี มีเพียงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กระทั่งบางวันอดมื้อกินมื้อ นอนกินน้ำตา จนสามีคิดสั้นหยิบมีดจะมากรีดคอตัวเองหวังฆ่าตัวตายมาแล้ว 2 หน แต่นางฮองมองเห็นพอดีจึงได้รีบวิ่งเข้าไปช่วยและแย่งมีดออกมา เพราะเครียดไม่มีเงินใช้หนี้และถูกไล่ออกจากที่ดินไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ชีวิตขณะนี้ไม่มีอะไรเหลือแล้ว นางฮองจึงประกาศขายดวงตา 1 ข้างเพื่อชดใช้หนี้และประทังชีวิตจนกว่าจะหมดลมหายใจ โดยติดหนี้ต่างๆ รวมแล้วประมาณ 5 แสนบาท ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดที่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 17 บ้านสวนฝ้าย ต.สำโรง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ นางฮอง ก่ำเกลี้ยง อายุ 72 ปี และ นายบุญเชี่ยว สินสวัสดิ์ อายุ 74 ปี สองสามีภรรยา นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นางมัลลิกา พุฒิชาติ นายกเหล่ากาชาดศรีสะเกษ นายบุญประสงค์ นวลสายย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษ นายอำเภออุทุมพรพิสัย ตัวแทนธนาคารออมสิน สาขาศรีสะเกษ ตัวแทนธนาคารอาคารสงเคราะห์สาขาศรีสะเกษ และตัวแทน ธ.ก.ส.สาขาศรีสะเกษ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางมาพบกับสองตายายเพื่อขอทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้มีการหารือกันเพื่อหาแนวทางที่จะให้การช่วยเหลือแก่นางฮอง และสามี
นางมัลลิกา พุฒิชาติ นายกเหล่ากาชาดศรีสะเกษ ได้มอบถุงยังชีพ อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ในครัวเรือน ให้แก่นางฮอง นอกจากนี้แล้ว พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษได้มอบเงินสดช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 2,000 บาทด้วย ซึ่งตัวแทนธนาคารที่มาร่วมในครั้งนี้ได้หารือกับนางฮองและสามี เพื่อหาทางในการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระหนี้สินของสองตายายในครั้งนี้
ขณะเดียวกัน นางฮองได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษทราบว่า จากการที่สื่อมวลชนได้มีการเผยแพร่ข่าวนี้ออกไปอย่างกว้างขวางแล้ว ปรากฏว่ามีผู้ใจบุญทั่วประเทศบริจาคเงินเข้ามาที่ธนาคารออมสิน เลขที่บัญชี 020148578790 ชื่อบัญชี นางฮอง ก่ำเกลี้ยง เพื่อให้การช่วยเหลือตนแล้ว เป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 50,000 บาท
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า หนี้สินของสองตายายที่เกิดขึ้นมานี้เป็นหนี้สุจริตที่เกิดจากการสร้างบ้านหลังเล็กๆ หนี้ที่เกิดจากการซื้อรถยนต์มือสองมาใช้เป็นเครื่องมือในการทำมาหากิน และหนี้ที่เกิดจากการซื้อวัสดุมาใช้ในการสร้างบ้าน ซึ่งเป็นภาระหนี้สินของสองตายายประมาณ 500,000 บาทเศษ ซึ่งทุกธนาคารที่มาในวันนี้ได้ช่วยกันวิเคราะห์ว่าจะช่วยคุณตาคุณยายอย่างไร ซึ่งแนวทางของธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส.จะเป็นทางเลือกที่ง่ายและเร็วที่สุดในการจัดการหนี้ให้กับตายาย โดยจะนำหนี้ทั้งหมดมาอยู่ในกองเดียวกันเป็นการลดภาระให้แก่ตายายในช่วงนี้ ตนจะสั่งการให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาบูรณาการสงเคราะห์ช่วยเหลือสองตายายอย่างเต็มที่ต่อไป
ทางด้าน นางฮอง ก่ำเกลี้ยง อายุ 72 ปี ผู้ประกาศขายดวงตาใช้หนี้ กล่าวว่า ตนต้องขอกราบขอบพระคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายกเหล่ากาชาดศรีสะเกษ ตัวแทนธนาคาร ส่วนราชการและสื่อมวลชนทุกแขนงที่เข้ามาให้การช่วยเหลือตนกับสามีในครั้งนี้ ซึ่งในขณะนี้ตนได้รับการบริจาคเงินช่วยเหลือจากผู้ใจบุญทั่วประเทศผ่านธนาคารออมสิน เลขที่บัญชี 020148578790 ชื่อบัญชี นางฮอง ก่ำเกลี้ยง ได้เงินบริจาคทั้งสิ้นประมาณ 50,000 บาทเศษ ตนจึงขอประกาศปิดการรับบริจาคเงินไม่ขอรับบริจาคอีกต่อไป เนื่องจากว่าขณะนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษและธนาคารรวมทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาให้การช่วยเหลือตนแล้ว ซึ่งตนจะไม่ประกาศขายดวงตาเพื่อใช้หนี้อีกต่อไป ตนขอกราบขอบคุณทุกภาคส่วนที่เข้ามาให้การช่วยเหลือตนในครั้งนี้
