กาญจนบุรี - ผู้ว่าฯ กาญจน์ ประกาศผ่อนผันโรงแรม รีสอร์ตรับนักท่องเที่ยวภายใต้มาตรการการคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตามหลักการ Social Distancing ที่ชัดเจน ฝ่าฝืนเจอโทษทั้งคุก-ปรับ
วันนี้ (20 ม.ค.) นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ประกาศคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 287/2564 เรื่อง มาตรการผ่อนคลายการปิดสถานที่ มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี
โดยนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี เผยว่า ตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 200/2564 ลงวันที่ 14 มกราคม 2564 เรื่อง มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี
ที่ 203/2564 ลงวันที่ 14 มกราคม 2564 เรื่อง ผ่อนผันการบังคับใช้คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรีนั้น
เนื่องจากอาจมีผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม และรีสอร์ต รวมถึงสถานที่ที่มีลักษณะคล้ายกันได้รับผลกระทบและเกิดความเสียหายอย่างมากต่อธุรกิจ หากมีการบังคับใช้โดยเคร่งครัด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจในอนาคต และเพื่อให้ผู้ที่มีหน้าที่จำเป็นต้องมาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งผ่านการคัดกรองตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว จะได้มีที่พักแรม
จึงอาศัยอำนาจความในมาตรา 22 และมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2548 ประกอบกับข้อ 2 และข้อ 7 (1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 และข้อ 5 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 16) ลงวันที่ 3 มกราคม พ.ศ.2563
ประกอบกับคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 1/2564 ลงวันที่ 3 มกราคม พ.ศ.2564 ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี จึงขอยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 203/2564 แล้วให้ดำเนินการ ดังนี้
1.ผู้ประกอบการที่มีผู้มาพักแรม หรือเช่าที่พักโดยต่อเนื่องระยะยาว ดำเนินการต่อไปตามควรแก่การระงับการสูญเสียของกิจการ ทั้งนี้ ให้มีการปฏิบัติตามมาตรการและข้อปฏิบัติด้านสุขอนามัยในเรื่องการคัดกรองผู้ติดเชื้อ การล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัย หรือหลักการของ Social Distancing ที่ชัดเจน
2.เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรค 2 (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539
ทั้งนี้ ผู้ใดฝาฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้โดยไม่มีเหตุอันสมควรจะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม พ.ศ.2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง