เชียงราย - กระแสข่าวแพร่สะพัด..หนุ่มเชียงรายเที่ยวผับเชียงใหม่คืนสิ้นปี กลับบ้านตรวจรอบแรกเป็นลบ-กักตัวต่อ ตรวจซ้ำรอบสองผลเป็นบวก จนท.เร่งตรวจสอบไทม์ไลน์เพิ่มเติม
วันนี้ (20 ม.ค.) ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย แจ้งว่ามีผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเพื่อนบ้านและเข้าสู่สถานกักกันโรคของรัฐ หรือ State quarantine เพิ่มอีกจำนวน 5 คน รวมยอดผู้ที่อยู่ในสถานกักกันโรคของรัฐเป็น 35 คน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่เกิดการระบาดรอบที่ 2 ตั้งแต่ 28 พ.ย. 2563 เป็นต้นมามีจำนวน 64 ราย ซึ่งได้รับการรักษาหายหมดแล้ว ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังเป็น 0 ราย
อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.เชียงราย ได้ออกติดตามตรวจสอบกรณีบุคคลที่เคยไปท่องเที่ยวที่สถานบันเทิงวอร์มอัพ จ.เชียงใหม่ และอาจจะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเหตุการณ์ระบาดเมื่อเร็วๆ นี้มาด้วย แต่ยังไม่มีการยืนยัน
เบื้องต้นมีรายงานว่า บุคคลดังกล่าวเป็นชายอายุ 27 ปี มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ ต.ป่าซาง อ.แม่จัน และไปทำงานที่กรุงเทพฯ จากนั้นได้เดินทางด้วยเครื่องบินกลับบ้านพักเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2563 และไปร่วมงานศพญาติในหมู่บ้านในวันที่ 25 ธ.ค. ก่อนที่จะนั่งรถเมล์เขียวเดินทางไป จ.เชียงใหม่ ในช่วงบ่ายวันที่ 26 ธ.ค. เดินทางต่อไปพักที่ อ.เชียงดาว ระหว่างนั้นไปท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง รวมทั้งร้านวอร์มอัพในวันที่ 31 ธ.ค.เพื่อฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และไปตามจุดต่างๆ หลายแห่ง โดยมีเพื่อนไปด้วยกัน 6 คนเป็นชาวเชียงใหม่ 2 คน และกรุงเทพฯ 2 คน
จากนั้นชายคนดังกล่าวได้กลับ จ.เชียงราย ด้วยรถยนต์ส่วนตัวในวันที่ 5 ม.ค. 2564 รุ่งขึ้น 6 ม.ค.ได้ไปตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งพบผลเป็นลบ แต่ก็ได้กักตัวอยู่แต่บ้านระหว่างวันที่ 7-18 ม.ค. 2564 โดยมีพ่อ แม่ น้า อาศัยอยู่ร่วมกัน กระทั่งวันที่ 19 ม.ค.จึงไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลเดียวกัน พบผลเป็นบวก ปัจจุบันถูกส่งตัวไปรอผลการยืนยันที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
ขณะที่คณะทำงานติดตามสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จ.เชียงราย ซึ่งมีกำหนดจัดประชุมหารือการบริหารจัดการขับเคลื่อนมาตรการ ณ อาคารศาลากลาง จ.เชียงราย ได้เลื่อนกำหนดออกไปคาดว่าเกิดจากสถานการณ์ใหม่ดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งออกตรวจสอบซึ่งหากพบมีผู้ติดเชื้อรายใหม่จริงก็จะต้องตรวจไทม์ไลน์ต่อไป ด้านสำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.เชียงราย แจ้งว่าจะมีการแถลงข่าวเรื่องดังกล่าวโดยคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ในวันพรุ่งนี้ (21 ม.ค.)