ศูนย์ข่าวขอนแก่น - คืบอีกขั้น นายกเทศมนตรีนครขอนแก่นหารือคณะแพทย์ มข.จัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ด้วยงบท้องถิ่น มุ่งจัดสรรให้ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นกว่า 110,000 คน วางกรอบจัดซื้อผ่านกระทรวงสาธารณสุข หรือจัดตั้งคณะกรรมการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
วันนี้ (20 ม.ค.) ที่ห้องรับรองชั้น 6 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น และคณะ เข้าพบ รศ.นพ.อภิชาติ จิระวุฒิพงศ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อหารือแนวทางจัดซื้อวัคซีน covid-19 ด้วยงบประมาณของท้องถิ่น เพื่อนำมาใช้สนับสนุนการฉีดวัคซีนจากภาครัฐ ให้เพียงพอต่อประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นกว่า 110,000 คน
นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า เบื้องต้นการหารือร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น สนับสนุนแนวคิดการจัดซื้อและการฉีดวัคซีนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยได้ให้ข้อมูล แนวทางการดำเนินการและงบประมาณ (ประมาณ 180 ล้านบาท) โดยนายกเทศมนตรีนครขอนแก่นนำเสนอแนวทาง 2 แนวทาง คือ 1. ท้องถิ่นจัดซื้อผ่านกระทรวงสาธารณสุข ตามชนิดและราคาที่กระทรวงกำหนดให้นำมาใช้ในประเทศไทย
2. ท้องถิ่นทำการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีสาธารณสุขจังหวัด, โรงพยาบาล, บุคลากรทางการแพทย์, คณะแพทยศาสตร์ มข. เพื่อกำหนดชนิดและรูปแบบของวัคซีนที่จะใช้ และดำเนินการจัดซื้อตามระเบียบพัสดุ
นายธีระศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับข้อมูลชนิดของวัคซีนมีดังนี้ 1. วัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอเอ็นวัคซีน (mRNA) ซึ่งได้จากสารพันธุกรรมชนิดอาร์เอ็นเอจากเชื้อไวรัส เมื่อคนได้รับวัคซีนเข้าสู่ร่างกายจะกระตุ้นให้สร้างภูมิคุ้มกันชนิดแอนติบอดี้ที่ช่วยต่อสู้กับไวรัสได้ 2. วัคซีนชนิด Viral Vector เป็นการใช้ไวรัสที่ทำให้อ่อนลงแล้วไม่ทำให้เกิดโรค มาตัดต่อใส่สารพันธุกรรมของ coronavirus เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ยกตัวอย่างวัคซีนที่ใช้วิธีนี้ เช่นวัคซีนอีโบลา
3. วัคซีนชนิดเชื้อตาย (inactivated vaccine) คือใช้เชื้อโรคทั้งตัวที่ตายแล้วหรือเฉพาะส่วนประกอบบางส่วนของเชื้อโรค 4. วัคซีนโปรตีนซับยูนิต (subunit protein) เป็นการใช้โปรตีนบางส่วนของเชื้อ เพื่อไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกัน
สำหรับวัคซีนที่ตกลงทำสัญญาซื้อกับบริษัทแอสตราเซเนกานั้นเป็นวัคซีนชนิด Viral Vector ส่วนวัคซีนจากบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค ที่จะได้รับล็อตแรกปลายเดือน ก.พ.นั้นเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย (inactivated vaccine) ซึ่งแต่ละรูปแบบมีประสิทธิภาพ และข้อควรระวังที่ต่างกัน ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ที่จะทำการให้วัคซีนจะมีขั้นตอนมาตรฐานตามหลักการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงที่สุด
