พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจ สภ.นครหลวง และชาวบ้านลงพื้นที่ไล่ล่าคนร้ายก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราเด็ก 11 ขวบ ในพื้นที่ หลังหลอกเด็กว่าแม่ให้มารับก่อนพาไปทำอนาจาร
วันนี้ (19 ม.ค.) ร.ต.อ.เจริญชัย โพสาราช รอง สว.สอบสวน สถานีตำรวจนครหลวง รับแจ้งเหตุว่ามีเด็กหญิงวัย 11 ขวบ ถูกทำอนาจารหวังข่มขืน บริเวณพื้นที่หมู่ 1 ตำบลนครหลวง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง
บริเวณลานดินด้านหลังวัดปราสาทนครหลวง เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อไล่ล่าหาคนร้ายนานหลายชั่วโมง แต่ไม่พบตัวผู้ก่อเหตุ พนักงานสอบสวนจึงตรวจสอบโดยรอบบริเวณลานดินพบว่า มีพงหญ้ารกร้างขึ้นจำนวนมาก ในพงหญ้าพบร่องรอยลักษณะเป็นป่าราบ พบขวดน้ำอัดลม 1 ขวด และหยดเลือดจำนวนมาก ตำรวจจึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนเด็กหญิง 11 ขวบ ถูกญาตินำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากพบว่าที่อวัยวะเพศมีร่องรอยบาดแผลฉีกขาด
จากการสอบถามเพื่อนบ้านของครอบครัวน้องเอ (นามสมมติ) อายุ 11 ปี ผู้เสียหายกล่าวว่า ช่วงเช้าตนเอง และน้องเอ ซึ่งอยู่บ้านติดกันชวนกันออกไปหาปลา บริเวณบ่อน้ำหลังโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. มีชายวัยรุ่นลักษณะผอมสูง อายุประมาณ 23-25 ปี สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ขับรถจักรยานยนต์ สีน้ำเงินเข้ามาหาน้องเอ บริเวณบ่อตกปลา อ้างกับน้องเอ ว่า แม่ให้มารับไปเอาข้าวและขนมกับผู้ใหญ่บ้านที่น้องเอ รู้จัก ทบริเวณปราสาทนครหลวง
ซึ่งตนเองบอกกับน้องเอ ว่าไม่ต้องไป เดี๋ยวเลิกตกปลาแล้วค่อยไปพร้อมกันทีเดียว ชายคนร้ายที่ก่อเหตุก็อ้างชื่อญาติพี่น้องของน้องเอ รู้จักทั้งหมด น้องเอ จึงเชื่อและยอมไปด้วย ตนเองจึงตัดสินใจให้ไป แต่ก่อนที่คนร้ายจะไปตนเองขอให้คนร้ายเปิดหน้ากากอนามัยที่ปิดบังใบหน้าเพื่อจะดูใบหน้าของคนร้ายที่มารับน้องเอ ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุก็เปิดใบหน้าให้ดู แต่ตนเองไม่รู้จัก จากนั้นน้องเอ นั่งซ้อนรถจักรยานยนต์ของคนร้ายไป จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าน้องเอ ถูกชายคนดังกล่าวที่มารับหวังข่มขืนบริเวณพงหญ้าหลังปราสาทวัดนครหลวง
ด้าน ลุงของน้องเอ กล่าวว่า น้องเอ ได้วิ่งไปหาที่บ้านซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร แล้วบอกว่าถูกข่มขืน แต่น้องเอ ขัดขืนแล้วหนีออกมา ด้วยความตกใจจึงไม่ได้ถามอะไรมากรีบพาน้องเอ ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจนครหลวง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ญาติส่งตัวไปโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกายอย่างละเอียด
พร้อมทั้งยังกล่าวอีกว่า ก่อนเกิดเหตุ 1 วันคนร้ายได้เข้าไปที่บ้าน ซึ่งไปคุยกับยายอายุ 80 ปี แต่ตนเองไม่ทราบว่าคนร้ายเข้าไปในบ้านตอนไหน กระทั่งมาเกิดเรื่องยายจึงเล่าให้ฟังว่า คนร้ายที่ก่อเหตุข่มขืนน้องเอ เข้ามาภายในบ้านและทำทีสอบถามรายชื่อคนในครอบครัวและนำไปอ้างว่ารู้จักเพื่อหวังที่จะไปหลอกน้องเอ มาข่มขืน ซึ่งได้มีการพูดคุยกับน้องเอ ว่ารู้จักคนร้ายที่มารับหรือเปล่า ซึ่งน้องเอ บอกว่าไม่รู้จักแต่อ้างว่าแม่ให้มารับจึงยอมขึ้นรถมาด้วย
ด้าน พ.ต.อ.นิวัฒน์ การสิทธิ์ ผกก.สภ.นครหลวง หลังจากทราบเรื่องแล้วไม่นิ่งนอนใจ เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีสะเทือนใจ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าตัวคนร้ายและตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเพื่อตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถที่คนร้ายนำมาใช้ก่อเหตุ หลังจากตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณถนนซอยศูนย์พัฒนาเด็กเล็กนครหลวง สามารถจับภาพคนร้ายใช้ยานพาหนะเป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินพาเด็กหญิงนั่งซ้อนท้ายมายังจุดบริเวณเกิดเหตุ
เบื้องต้น พอจะทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้วอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและนำไปสู่การออกหมายจับนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป