เชียงใหม่-จังหวัดเชียงใหม่และสภาลมหายใจเชียงใหม่ ร่วมกับทุกภาคส่วนส่งมอบอุปกรณ์ดับไฟป่าหนุนเสริม 295 หมู่บ้าน ที่มีแผนงานป้องกันและจัดการไฟป่าชัดเจน หวังสร้างมิติใหม่การแก้ไขปัญหา ชูชุมชนเป็นแกนหลักทำงาน เตรียมพร้อมก่อนเข้าช่วงแล้ง เน้นป้องกันแทนการไล่ดับไฟแบบเดิม
วันนี้(18 ม.ค.64) จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ,สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ,มูลนิธิเพื่อลมหายใจเชียงใหม่ และสภาลมหายใจเชียงใหม่ ทำการส่งมอบอุปกรณ์สนับสนุนการเตรียมการป้องกันไฟป่า ปี 2564 และประกาศแนวทางชุมชนเป็นแกน ป้องกันไม่ใช่ไล่ตามดับ โดยมีผู้แทนชุมชน จาก 35 ตำบล และ 1 พื้นที่ ร่วมรับมอบฯ ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งการบริจาคและมอบอุปกรณ์ป้องกันและดับไฟป่าครั้งนี้ ถือเป็นมิติใหม่ที่จะต้องมีแผนและเป้าหมายจากชุมชนมาก่อน แล้วจึงมีการสนับสนุน
สำหรับอุปกรณ์ที่มีการส่งมอบในครั้งนี้ ได้แก่ เครื่องเป่าลม 250 เครื่อง เครื่องพ่นน้ำ 30 เครื่อง ถังฉีดน้ำ 100 ถัง เครื่องตัดหญ้า 100 เครื่อง เลื่อยยนต์ตัดไม้ 20 เครื่อง ถัง200ลิตร 100 ถัง ไม้ตบไฟ 800 อัน คราดมือเสือ 1,000 อัน ไฟฉายคาดหัว 800 อัน กล้องส่องทางไกล 100 ตัว และวิทยุสื่อสาร 120 เครื่อง รวมมูลค่า 2,300,000 บาท ให้กับ 35 ตำบล และ 1ผืนป่านำร่องดอยสุเทพ รวม 295 หมู่บ้าน 40 ตำบล จาก 21 อำเภอในจังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ประธานสภาลมหายใจเชียงใหม่ เปิดเผยว่า อุปกรณ์ทั้งหมด มาจากเงินบริจาคจากของประชาชนในปี 2563 ที่บริจาคผ่านสภาลมหายใจเชียงใหม่ ในช่วงที่เกิดวิกฤติฝุ่นควัน ซึ่งปี 2563 ที่ผ่านมา ทางสภาลมหายใจเชียงใหม่ ได้ส่งมอบอุปกรณ์จำนวนหนึ่ง ให้กับ140 ชุมชนไปแล้วครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตามในครั้งนั้นเนื่องจากเป็นช่วงสถานการณ์กะทันหันกว่าจะสามารถจัดซื้อและส่งมอบอุปกรณ์ได้ก็ไม่ทันการณ์เป็นส่วนใหญ่
โดยการดำเนินการนี้มาจากแนวความคิดสำคัญของสภาลมหายใจเชียงใหม่ต่อการแก้วิกฤตปัญหามลพิษอากาศฝุ่นควันภาคเหนือ ที่เห็นว่าต้องเปิดให้ชุมชนและท้องถิ่นมีบทบาทและมีส่วนร่วมสำคัญในกระบวนการพิทักษ์รักษาทรัพยากรตลอดทั้งปี และมีส่วนในการวางแผน นำเสนอข้อปัญหาและความต้องการในปฏิบัติการป้องกันและจัดการฝุ่นควันไฟป่า โดยเชื่อว่าหากพลังสังคม ท้องถิ่น และชุมชนเข้มแข็งมองเห็นปัญหาในทิศทางเดียวกัน ร่วมมือร่วมใจกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จะนำพาเชียงใหม่ออกจากวิกฤตการณ์มลพิษอากาศฝุ่นควันได้ในเร็ววัน
ขณะที่นายไพรัช โตวิวัฒน์ ประธานมูลนิธิเพื่อลมหายใจเชียงใหม่ กล่าวว่า การป้องกันแก้ไขปัญาฝุ่นควันไฟป่าต้องให้ชุมชนเป็นแกนหลัก โดยเห็นควรยกเลิกการรับบริจาคแล้วแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แล้วผลักดันบทบาทชุมชนและท้องถิ่นให้เป็นแกนนำหลัก และมีส่วนร่วมมากขึ้น พร้อมกับมาตรการเชิงป้องกันแทนการไล่ดับไฟ แบบที่ผ่านๆ มา ซึ่งเป็นนโยบายที่ประชาชนอยากเห็น แม้บางอย่างอาจจะทำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่เชื่อว่าการผลักดันให้ชุมชนเป็นแกนนำจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น อย่างน้อยสัก30% ของเป้าหมายก็ยังดี.