xs
xsm
sm
md
lg

จนท.ป่าไม้เชียงใหม่ตรวจสอบทันควัน พื้นที่ “ลุงป้อม” ปลูกป่าห้วยตึงเฒ่า ยัน 47 ต้น VIP ยังอยู่ครบ ไม่ตาย-แค่ผลัดใบช่วงแล้ง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายณัฏฐนันธ์ ด่านอนุพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนจัดการป่าชุมชน รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ (ขวา) และนายศิริชัย ทองประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการปลูกป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ (ซ้าย)
เชียงใหม่ - ผู้บริหารสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) นำ จนท.ลงพื้นที่ตรวจสอบทันทีหลังโซเชียลฯ โพสต์ภาพระบุกล้าไม้เหี่ยวแห้งยืนต้นตายบนพื้นที่ห้วยตึงเฒ่า ที่ “ฌอน” ไลฟ์โค้ชชื่อดังร่วมปลูกพร้อม “ลุงป้อม” เมื่อปีที่แล้ว ยืนยันแค่ไม้ผลัดใบตามธรรมชาติ ตรวจนับต้นที่ปลูกโดยบุคคลสำคัญทั้งหมด 47 ต้น ยังอยู่ดีครบทั้งหมด พร้อมย้ำ “ฌอน” แค่คนมาร่วมกิจกรรม ไม่เกี่ยวข้องร่วมจัด


จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Tee Hit” ได้โพสต์ภาพกล้าต้นไม้ที่ถูกปลูกเรียงเป็นแถว แต่ไม่ได้รับการดูแลและเหี่ยวแห้งตาย มีเพียงฟางหญ้าคลุมไว้ที่โคนต้นเท่านั้น พร้อมบรรยายข้อความว่า “ฌอน นายจำได้ไหม?? ป่าที่นายเคยมาปลูก ต้นไม้ที่นายเคยปลูกก็ยังไม่มีใบงอกมาสักใบเลย ผ่านไปเป็นปีแล้ว นายกลับมาดูแลบ้าง???” 

โพสต์ดังกล่าวมีผู้นำไปแชร์ต่อและเข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นการตำหนิ โดยเชื่อว่าภาพที่มีการนำมาโพสต์นั้นเป็นพื้นที่ปลูกป่าตามโครงการ “รวมใจไทยปลูกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูป่าและเพิ่มพื้นที่สีเขียว” บริเวณห้วยตึงเฒ่า อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และนายฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชและเน็ตไอดอลชื่อดังเข้าร่วมด้วย ก่อนที่ต่อมา “ฌอน” จะถูกโจมตีอย่างหนักให้ตรวจสอบเกี่ยวกับการรับบริจาคเงินช่วยดับไฟป่าดอยสุเทพ ทำให้ต้องเก็บตัวเงียบไปตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จนกระทั่งล่าสุดเกิดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง


วันนี้ (15 ม.ค. ) ที่ห้วยตึงเฒ่า อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นายณัฏฐนันธ์ ด่านอนุพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนจัดการป่าชุมชน รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) และนายศิริชัย ทองประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการปลูกป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ปลูกป่าตามโครงการ “รวมใจไทยปลูกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูป่าและเพิ่มพื้นที่สีเขียว” ซึ่งอยู่ใกล้กับอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า และลานหุ่นฟางคิงคอง เพื่อสำรวจและตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่โซเชียลมีเดียมีการโพสต์ภาพและตั้งข้อสังเกตว่าต้นไม้ที่ปลูกไว้ตามโครงการดังกล่าวเหี่ยวแห้งตายหมด จนเกิดกระแสวิพากษ์อย่างกว้างขวาง


เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า ต้นไม้ที่ปลูกไว้โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมทั้งบุคคลสำคัญ จำนวน 47 ต้น และที่ปลูกเสริมเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่งเป็นรวม 60 ต้น ไม่ได้ตายหมดตามที่มีการเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียแต่อย่างใด สภาพต้นไม้ที่ไม่มีใบนั้นเป็นเพียงการผลัดใบในช่วงย่างเข้าสู่ฤดูแล้งเท่านั้น อย่างไรก็ตาม พบว่ามีบางต้นที่ตาย แต่มีอัตราการรอดสูงกว่า 80% ขณะที่ต้นตะเคียนทองที่ปลูกโดย พล.อ.ประวิตร และต้นไม้ที่บุคคลสำคัญร่วมกันปลูกรวมจำนวน 47 ต้นนั้นยังไม่ตาย และอยู่ครบทั้งหมด โดยจากนี้เตรียมจัดเจ้าหน้าที่เพิ่มความถี่ในการดูแลมากขึ้น


นายณัฏฐนันธ์เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ต้นไม้ที่ปลูกตามโครงการไม่ได้ตายตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในโซเชียลมีเดียแต่อย่างใด โดยลักษณะที่ต้นไม้ไม่มีใบนั้นเป็นเพียงการผลัดใบตามธรรมชาติในช่วงย่างเข้าสู่ฤดูแล้งเท่านั้น และจากการตรวจนับพบว่าต้นไม้ที่ปลูกโดยบุคลลสำคัญทั้งหมด 47 ต้น ยังไม่ตายและอยู่รอดทั้งหมด ส่วนที่มีการปลูกเสริมเพิ่มเติมไว้ในคราวเดียวกันนั้นพบว่ามีตายไปบางส่วน 

อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมต้นไม้ที่ปลูกไว้ทั้งหมดมีอัตราการรอดสูงกว่า 80% พร้อมยืนยันว่า ที่ผ่านมาร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ทหารที่เป็นเจ้าของพื้นที่ดูแลต้นไม้ที่ปลูกไว้อย่างต่อเนื่อง แต่จากนี้จะมีการจัดเจ้าหน้าที่ป่าไม้และเพิ่มความถี่ในการเข้ามาดูแลเพิ่มขึ้น


ขณะที่นายศิริชัย ทองประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการปลูกป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) กล่าวว่า ตามที่มีข้อมูลเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียว่าต้นไม้ที่ปลูกไว้ตายนั้น ในข้อเท็จจริงแล้วต้นไม้ที่มีการนำมาปลูกไว้นั้น ตามธรรมชาติจะมีการผลัดใบในช่วงหน้าแล้ง และแตกยอดออกใบใหม่ในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงหน้าแล้งพอดี จึงเป็นปกติที่ต้นไม้ที่ปลูกไว้จะผลัดใบออกหมด แต่เมื่อย่างเข้าช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.จะพบว่ามีการแตกยอดออกใบใหม่ 

ขณะนี้บางต้นก็เริ่มแตกยอดและออกใบใหม่ให้เห็นบ้างแล้ว นอกจากนี้ จากการให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจนับต้นไม้ที่ปลูกไว้โดยบุคคลสำคัญพบด้วยว่ายังอยู่ครบทั้ง 47 ต้น ส่วนที่มีการปลูกเสริมเพิ่มเติมให้ครบ 60 ต้น มีตายบางส่วน และจะทำการปลูกเพิ่ม รวมทั้งเพิ่มความถี่ในการจัดเจ้าหน้าที่ป่าไม้แวะเวียนมาดูแลร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร


ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการปลูกป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) บอกด้วยว่า ต้นไม้ที่ปลูกไว้เป็นไม้เศรษฐกิจและโตช้า ได้แก่ ประดู่ มะค่า พะยูง สัก ตะเคียนทอง ซึ่งจะต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะเห็นผลเป็นรูปธรรม ดังนั้น ในเวลานี้จึงอาจจะยังไม่เห็นผลว่าต้นไม้สูงใหญ่เพราะเพิ่งปลูกเมื่อกลางปี 2563 ที่ผ่านมานี้เอง แต่ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้จะดูแลอย่างดีที่สุดเพื่อให้ต้นไม้ที่ปลูกไว้อยู่รอดและยืนต้นเติบใหญ่ในระยะยาว พร้อมกันนี้ชี้แจงด้วยว่าโครงการปลูกป่าดังกล่าวนี้ “ฌอน” เป็นเพียงผู้ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนร่วมจัดหรือดำเนินการแต่อย่างใด




กำลังโหลดความคิดเห็น