เมียวดี/แม่สอด - ฝ่ายความมั่นคง 5 อำเภอชายแดนตากสนธิกำลังคุมเข้มช่องทางธรรมชาติตลอดแนว หลัง “เมียวดี” ประกาศเคอร์ฟิวยาว 2 เดือน คาดรับมือวิกฤตซ้อนทั้งโควิด-19 ระบาดต่อเนื่อง-พม่ากดดันกองกำลังพิทักษ์ชายแดน
ฝ่ายปกครองจังหวัดเมียวดี สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยนายส่อโก่โก่ หัวหน้าฝ่ายปกครอง กรมการปกครองทั่วไป อ.เมืองเมียวดี เมียนมา ได้ลงนามคำสั่งตั้งแต่เย็น 14 ม.ค. 64 ประกาศเคอร์ฟิว ห้ามชาวบ้านในเขตจังหวัดเมียวดีทุกชุมชนหมู่บ้านออกนอกเคหสถานอย่างเด็ดขาดในช่วงเวลาเที่ยงคืนไปจนถึงเวลา 04.00 น.ของทุกวัน ตั้งแต่ 15 ม.ค.เป็นเวลา 2 เดือน
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากรับมือกับวิกฤตโควิด-19 ที่ระบาดในฝั่งเมียวดีต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าจะลดลง จนต้องประกาศเคอร์ฟิวแล้ว อาจเป็นมาตรการรับมือความตึงเครียดที่เกิดขึ้นระหว่างทางการเมียนมากับกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) ที่มีนายพลหม่อง ชิต ตู่ ซึ่งมีอิทธิพลในพื้นที่ชายแดนเมียนมาตรงข้าม จ.ตาก ด้วย
โดยรัฐบาลกลางของเมียนมาขู่จะจัดการพื้นที่เมืองใหม่ฉ่วยก๊กโก หรือซุ่ยโก๊กโก่ ส่วนหนึ่งในพื้นที่อิทธิพลของ BGF-หม่อง ชิต ตู่ ซึ่งมีกลุ่มทุนจีนรับสัมปทานพัฒนาพื้นที่สร้างบ้านพัก อาคาร กาสิโน ฯลฯ มาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว มีการส่งทหารลงมากดดัน BGF
ขณะที่ฝ่ายปกครองทั้ง 5 อำเภอชายแดนจังหวัดตากก็ได้ยกระดับการคุมเข้มการป้องกันและสกัดการลักลอบข้ามแนวชายแดนของบุคคลต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเข้มงวด เช่น อ.พบพระ นายสมพงษ์ ฟุ้งทวีวงศ์ นายอำเภอพบพระ ได้นำฝ่ายปกครองสนธิกำลังกับทหาร ตำรวจ ร่วมกันออกตรวจลาดตระเวนช่องทางธรรมชาติที่ล่อแหลม โดยเฉพาะช่องทางแนวเทือกเขาสันปันน้ำ ซึ่งไม่มีแม่น้ำกั้นพรมแดนถูกคุมเข้มเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการลักลอบข้ามพรมแดนตลอด 24 ชั่วโมง
นายสมพงษ์ ฟุ้งทวีวงศ์ นายอำเภอพบพระ กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายปกครองอำเภอพบพระได้ประสานการทำงานการข่าวเชิงรุกกับทุกอำเภอตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมือง ซึ่งพบพระ มีพื้นที่ติดต่อกับชายแดนเมียนมารวม 14 หมู่บ้าน และมีช่องทางธรรมชาติ 9 แห่ง ขณะนี้ได้ตั้งด่านชุมชนทุกพื้นที่ และฝ่ายความมั่นคงยังร่วมกับราษฎรลาดตระเวนเดินเท้าควบคู่กับการตรวจคัดกรอง ประชาชนที่เดินทางเข้าออกในทุกหมู่บ้านชายแดนพบพระ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และเฝ้าระวังการลักลอบข้ามชายแดนผิดกฎหมายตลอดจนป้องกันผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสขนยาเสพติดและสิ่งของผิดกฎหมายในช่วงนี้
และวานนี้ (15 ม.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับนายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก คณะผู้บริหารของของโรงพยาบาลแม่สอด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงพื้นที่ชายแดน เพื่อติดตามสถานการณ์และหารือแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ซึ่งขณะนี้มีผู้ป่วยโควิดที่ยังต้องรักษาตัวอยู่ใน รพ.แม่สอด รวม 67 ราย อาการหนัก 1 ราย
โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับเรื่องการป้องกันและสกัดคนที่จะลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา ส่วนการสร้างโรงพยาบาลสนาม ให้จังหวัดตากทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ให้ดีเพื่อป้องกันชาวบ้านคัดค้าน นอกจากนี้ยังได้มอบนโยบายให้จังหวัดตากตรวจคัดกรองแรงงานเมียนมาที่ทำงานอยู่ตามโรงงาน หากตรวจเจอก่อนจะได้นำไปรักษาป้องกันการแพร่ระบาดไปพื้นที่อื่น
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรียังได้กำชับให้ทหาร-ตำรวจและฝ่ายปกครองในทุกพื้นที่ชายแดนจังหวัดตาก เร่งแก้ไขปัญหาการลักลอบข้ามไปเล่นการพนันในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย