“รอง ผบ.ตร.”ชงตั้งกรรมการสอบ 33 จนท.รัฐ เอี่ยวขบวนการขนแรงงานต่างด้าวผิด กม.เข้าประเทศ พบมี ตร.กว่า 20 นายร่วม มี "รองผู้การฯ" ด้วย จ่อออกหมายจับ 8 รายโยง “มหาชัย” ด้านนายกฯตั้ง “ภักดี” อดีต ป.ป.ช.คุมปราบทั้งระบบ
วานนี้ (14 ม.ค.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องจริง 33 คน ในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 คน ตั้งแต่ระดับประทวน และสัญญาบัตร สูงสุดระดับรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ที่เหลือเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่น
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับพฤติการณ์นั้น มีทั้งปล่อยปละละเลย และบางคนก็มีส่วนร่วมในขบวนการลำเลียงแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้จะเสนอให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในวันที่ 18 ม.ค.นี้ รวมถึงพิจารณาว่ารายใดจะเข้าข่ายความผิดอาญา ก็จะดำเนินคดีไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่หากยังไม่เข้าข่ายความผิดอาญา จะพิจารณาลงโทษทางวินัย และทางปกครอง
"ภายในสัปดาห์หน้าตำรวจเตรียมออกหมายจับขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐอีก 8 คน ทั้งหมดเป็นคนไทยที่ร่วมมือกับขบวนการที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ลำเลียงแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายส่งไปยัง จ.สมุทรสาคร" รอง ผบ.ตร. ระบุ
สำหรับกรณีช่วงวันที่ 15 ม.ค.-13 ก.พ.นี้ ที่จะมีการผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจตระเวนชายแดน ให้เข้มงวดตามแนวชายแดน ป้องกันการทะลักเข้ามาของแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่ง ผบ.ตร. อยู่ระหว่างการลงนามให้ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงไปกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน เพื่อสกัดกั้นแรงงานเข้าประเทศผิดกฎหมาย
วันเดียวกันมีการเผยแพร่คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 8/2562 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีการเข้าเมืองผิดกฎหมาย เป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยแต่งตั้ง นายภักดี โพธิศิริ อดีตคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นประธาน และมีกรรมการอีก 14 คน อาทิ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ย.ป., รองปลัดกระทรวงกลาโหม, รองปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ, รองเลขาธิการ ปปง., รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ, รองอธิบดีกรมการจัดหางาน และรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นต้น
โดยระบุเหตุผลในการแต่งตั้งด้วยว่า การหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายและไม่ตรวจคัดกรอง บางครั้งมีเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ ทำเป็นขบวนการระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ นายจ้าง นายหน้าจัดหาแรงงาน ผู้ประกอบาขนส่งและบุคคลอื่น ซึ่งเป็นความผิดกฎหมายหลายฉบับ ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจำเป็นต้องตั้งกรรมการตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ และติดตามการทำงานทั้งระบบ รวมถึงประสานงาน ให้คำแนะนำแก่เจ้าหน้าที่เพื่อป้องกัน ปราบปราม นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ทั้งนี้คำสั่งดังกล่าวกำหนดอำนาจให้ ด้วยว่า ตรวจสอบการกระทำผิดเกี่ยวกับการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย, การเคลื่อย้ายเดินทางจนเป็นเหตุให้โควิด-19 ระบาด, ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ต่อการนำผู้กระทำผิด ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ แรงงานข้ามชาติ หรือแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย นายจ้าง นายหน้าจัดหางาน ผู้ประกอบการขนส่ง หรือบุคคลอื่นใดมาลงโทษ พร้อมกับเสนอมาตรการป้องกันหรือดำเนินการอื่นที่เหมาะสม แล้วรายงานทางลับให้นายกฯพิจารณาสั่งการตามความจำเป็นหรือทุกรอบ 30 วัน
วานนี้ (14 ม.ค.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องจริง 33 คน ในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 คน ตั้งแต่ระดับประทวน และสัญญาบัตร สูงสุดระดับรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ที่เหลือเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่น
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับพฤติการณ์นั้น มีทั้งปล่อยปละละเลย และบางคนก็มีส่วนร่วมในขบวนการลำเลียงแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้จะเสนอให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในวันที่ 18 ม.ค.นี้ รวมถึงพิจารณาว่ารายใดจะเข้าข่ายความผิดอาญา ก็จะดำเนินคดีไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่หากยังไม่เข้าข่ายความผิดอาญา จะพิจารณาลงโทษทางวินัย และทางปกครอง
"ภายในสัปดาห์หน้าตำรวจเตรียมออกหมายจับขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐอีก 8 คน ทั้งหมดเป็นคนไทยที่ร่วมมือกับขบวนการที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ลำเลียงแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายส่งไปยัง จ.สมุทรสาคร" รอง ผบ.ตร. ระบุ
สำหรับกรณีช่วงวันที่ 15 ม.ค.-13 ก.พ.นี้ ที่จะมีการผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจตระเวนชายแดน ให้เข้มงวดตามแนวชายแดน ป้องกันการทะลักเข้ามาของแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่ง ผบ.ตร. อยู่ระหว่างการลงนามให้ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงไปกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน เพื่อสกัดกั้นแรงงานเข้าประเทศผิดกฎหมาย
วันเดียวกันมีการเผยแพร่คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 8/2562 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีการเข้าเมืองผิดกฎหมาย เป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยแต่งตั้ง นายภักดี โพธิศิริ อดีตคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นประธาน และมีกรรมการอีก 14 คน อาทิ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ย.ป., รองปลัดกระทรวงกลาโหม, รองปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ, รองเลขาธิการ ปปง., รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ, รองอธิบดีกรมการจัดหางาน และรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นต้น
โดยระบุเหตุผลในการแต่งตั้งด้วยว่า การหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายและไม่ตรวจคัดกรอง บางครั้งมีเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ ทำเป็นขบวนการระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ นายจ้าง นายหน้าจัดหาแรงงาน ผู้ประกอบาขนส่งและบุคคลอื่น ซึ่งเป็นความผิดกฎหมายหลายฉบับ ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจำเป็นต้องตั้งกรรมการตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ และติดตามการทำงานทั้งระบบ รวมถึงประสานงาน ให้คำแนะนำแก่เจ้าหน้าที่เพื่อป้องกัน ปราบปราม นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ ทั้งนี้คำสั่งดังกล่าวกำหนดอำนาจให้ ด้วยว่า ตรวจสอบการกระทำผิดเกี่ยวกับการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย, การเคลื่อย้ายเดินทางจนเป็นเหตุให้โควิด-19 ระบาด, ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ต่อการนำผู้กระทำผิด ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ แรงงานข้ามชาติ หรือแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย นายจ้าง นายหน้าจัดหางาน ผู้ประกอบการขนส่ง หรือบุคคลอื่นใดมาลงโทษ พร้อมกับเสนอมาตรการป้องกันหรือดำเนินการอื่นที่เหมาะสม แล้วรายงานทางลับให้นายกฯพิจารณาสั่งการตามความจำเป็นหรือทุกรอบ 30 วัน