กาญจนบุรี - “ปฏิบัติการฟ้าสางที่สังขละบุรี” ยึดจักรยานยนต์สภาพเก่า ไม่มีเอกสาร 4 คัน เชิญเจ้าของบ้านเป้าหมายตามหมายค้นสอบปากคำ 5 ราย รอง ผบ.ตร. เผยหากพบประชาชนร่วมขบวนการลอบนำแรงงานเข้าประเทศเจอคดีอาญา หากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเจอทั้งอาญาและวินัย
ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ DSI เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 นำโดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.ภ.7 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี นำโดย พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี รวมทั้ง พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ สนธิกำลังเกือบ 100 นาย เปิดปฏิบัติการฟ้าสางที่สังขละบุรี เมื่อช่วงเช่าวันนี้ (7 ม.ค.)
โดยนำหมายค้นศาลจังหวัดทองผาภูมิ เข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายต้องสงสัยเป็นขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวชาวพม่าหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งขบวนการลักลอบนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ส่งไปขายที่ประเทศเพื่อนบ้าน ในพื้นที่บ้านสะเนพ่อง หมู่ 1 ต.ไล่โว่ หมู่ 2 ชุมชนบ้านวังกะ และหมู่ 3 บ้านไหล่น้ำ ต.หนองลู รวม 7 เป้าหมาย
ล่าสุด ชุดปฏิบัติการฟ้าสางที่สังขละบุรี ได้ตรวจยึดของกลาง พร้อมเชิญตัวเจ้าของบ้านเป้าหมายที่พบ จำนวน 5 ราย มาที่ สภ.สังขละบุรี ระหว่างนั้นนายพันธุ์ธภัทร พศธนัตถ์ชัย เข้าบ้านเลขที่ 526 หมู่ 2 ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ที่ สภ.สังขละบุรี ด้วย
ต่อมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบ.ช.ภ.7 พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของการตรวจค้นที่ สภ.สังขละบุรี ก่อนเข้าห้องประชุมได้เข้าซักถามข้อมูลจาก น.ส.กรนิภา อมรเดชากร หรือ มะปิน ซึ่งจากข้อมูลของตำรวจพบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการขนแรงงานชาวพม่ามานาน โดยใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงแล้วเสร็จ
โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.เปิดเผยภายหลังว่า หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีประชาชนเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ก็จะถูกดำเนินคดีอาญา แต่ถ้าหากมีมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวพันเราก็จะดำเนินคดีอาญารวมทั้งวินัยด้วย
สำหรับข้อมูลที่มีหน่วยงานภาครัฐ หรือตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง เรื่องนี้เรามีข้อมูลเข้ามาแล้ว ส่วนจะเกี่ยวข้องกับใครบ้างเราจะรีบดำเนินการโดยเร็วทั้งอาญาและวินัยด้วย วันนี้ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ไปหลายเรื่อง
กรณีนี้ถือว่าท่านนายกรัฐมนตรี ได้มีเจตจำนงอยากให้สืบสวนปราบปรามขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาอย่างจริงจริง ซึ่งท่านได้มีนโยบายให้ท่าน ผบ.ตร.มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานสอบสวนปราบปรามแรงงานต่างด้าว ซึ่งได้ลงนามไปเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.63 โดยตั้งให้ผมเป็นหัวหน้าคณะทำงาน
ซึ่งขณะนี้เราจะทำงานอย่างจริงจัง และวันนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี หลักฐานต่างๆ ที่ได้จะรีบให้ทางสืบสวนภาค 7 ส่งข้อมูลไปให้ ผบ.ตร.เพื่อที่เราจะได้พิจารณาดำเนินการโดยเร็ว หากมีการพัวพันกับหน่วยงานรัฐอื่นๆ เราจะไม่ละเว้น ในส่วนของประชาชนเราจะสาวไปให้ถึงผู้ที่นำเข้า หรือเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือ นำพาแรงงานต่างด้าวให้ได้โดยเร็ว
ถามว่าวันนี้เรามีข้อมูลในการตรวจค้นสืบสวนมีผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นประชาชน ตำรวจ หรือฝ่ายปกครองที่มีตัวตน และจำนวนคนหรือไม่ ตอบว่ามีอยู่พอสมควรแต่ยังไม่อยากเปิดเผยเพื่อขอเวลารวบรวมพยานหลักฐาน
ที่ผ่านมานั้นมีการลักลอบนำแรงงานเข้ามาทางชายแดนจริง เชื่อว่าไม่มีแค่เส้นทางเดียวแต่อาจจะมีหลายเส้นทาง ซึ่งเราจะทำให้เป็นระบบและที่สำคัญไปกว่านั้นทางรัฐบาลโดยท่านายกรัฐมนตรี ท่านได้ออกประกาศฉบับที่ 17 โดยเน้นย้ำว่าใครปล่อยปละละเลยและใครเข้าร่วมขบวนการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือเจ้าหน้าที่จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ฉุกเฉินด้วย เพราะท่านให้ความสำคัญกับแรงงานต่างด้าว และเรื่องของบ่อนการพนันต่างๆ ซึ่งขณะนี้เราได้ดำเนินการและเชื่อว่าภายในไม่กี่วันนี้จะทำให้เห็นเป็นรูปธรรม
สำหรับการที่จะปรับพัฒนาการสกัดกั้นให้ดี เราได้มีการพูดคุยกับหน่วยงานทหาร ซึ่งรับผิดชอบแนวชายแดน และหน่วยงานของ ตชด.ที่เป็นผู้ช่วยเหลือ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเราจะคุยกับฝ่ายปกครองด้วยเพื่อปรับแนวทางการตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีให้มีความเข้มแข็งขึ้นเพื่อจะได้ไม่ให้มีปัญหาในระยะยาวต่อไป
ตอนนี้ทราบว่ากลุ่มขบวนการยังต้องการนำแรงงานเข้ามาอยู่ เนื่องจากว่ายิ่งมีนโยบายที่ดีที่จะทำให้แรงงานที่ผิดกฎหมายที่มีอยู่ภายในประเทศ ผ่อนให้อยู่ได้อีก 2 ปี จึงเชื่อว่าช่วงนี้น่าจะมีความพยายามเข้ามา ซึ่งเราจะพยายามสกัดกั้นให้ได้
ถามว่าก่อนหน้านี้ที่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบขนแรงงานในครั้งนี้ด้วยหรือไม่ ในส่วนของจังหวัดกาญจนบุรีนั้น เจ้าหน้าที่บางส่วนสอบสวนเกี่ยวกับวินัย บางส่วนอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยเราจะให้ทางภาค 7 มาดูอย่างใกล้ชิด อันไหนที่ผิดวินัย หรือผิดอาญา เราจะรีบดำเนินการให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลปฏิบัติในการตรวจค้นบ้านเป้าหมายทั้ง 7 เป้าหมาย ประกอบด้วย 1.บ้านเลขที่ 25 หมู่ 1 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี ไม่พบเป้าหมายอยู่ภายในบ้าน 2.บ้านเลขที่ 15/1 หมู่ 1 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี ไม่พบเป้าหมายอยู่ภายในบ้าน
3.บ้านเลขที่ 80 หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี พบนายเจษฎาภรณ์ ปูน้อย อยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายค้น พร้อมกับเชิญตัวมาสอบสวนที่ สภ.สังขละบุรี โดยตรวจยึดรถจักรยานยนต์สภาพเก่า ไม่มีเอกสาร จำนวน 3 คัน มาตรวจสอบ
4.บ้านเลขที่ 526 หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ไม่พบเจ้าของบ้านที่เป็นเป้าหมาย พบเป้าหมายพบเพียง น.ส.คงโท
ภรรยานายพันธุ์ธภัทร เป็นผู้ดูแลบ้าน
5.บ้านเลขที่ 304 หมู่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี พบ น.ส.วิมล วงษ์ษา และ น.ส.อรัญญา เหมือนเสมียน
6.บ้านเลขที่ 535 หมู่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี พบ น.ส.กรนิภา หรือมะปิน อมรเดชากร อยู่ภายในบ้าน
และ 7.บ้านเลขที่ 14/1 หมู่ 8 ตำบลหนองลู อ.สังขละบุรี พบเป้าหมายคือนายอดิศักดิ์ สังขวิริยกุล อยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายค้นพร้อมเชิญตัวมาสอบสวน และยึดรถจักรยานยนต์ไม่มีเอกสาร จำนวน 1 คัน นำมาตรวจสอบที่ สภ.สังขละบุรี