ราชบุรี - ผู้การฯ ราชบุรี สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน 5 ตำรวจ รีดเงินสาวท้องพร้อมทั้งเรียกสอบเหยื่ออีกรายที่ถูกรีดเงิน ขณะที่เจ้าตัวผวาภัยมืดคุกคาม
กรณีเรื่องราวอื้อฉาวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี ระดับสัญญาบัตร 2 นาย และชั้นประทวน 3 นาย ถูกสาวท้อง 4 เดือน แจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เขาดิน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ว่า ถูกตำรวจทั้ง 5 นาย บุกค้นบ้านคืนวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมบังคับให้ส่งเงิน 9,500 บาท ที่เตรียมไว้ฝากครรภ์ไป โดยอ้างการตรวจค้นคดียาเสพติด และให้ญาตินำเงิน 30,000 บาท ไปเคลียร์คดีนั้น กระทั่งเรื่องแดงขึ้นมา พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ได้มีการดำเนินการทางวินัย และคดีต่อตำรวจทั้ง 5 นาย เบื้องต้น ให้มีการออกจากราชการแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (11 ม.ค.) ผู้เสียหายที่เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 5 นาย รีดเงินโผล่อีกรายออกมาแฉพฤติกรรม ทราบชื่อคือ นายคฑาวุฒิ แย้มกลัด อายุ 36 ปี เป็นชาว ต.ท่าชุมพล อ.โพธาราม จ.ราชบุรี โดยนายคฑาวุฒิ ได้เข้าพบ พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ที่ สนง.ภ.จว.ราชบุรี เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังการให้ข้อมูลเบื้องต้นเสร็จสิ้น จึงได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.สมบูรณ์ มูลพันธ์ รอง ผกก.สอบสวน หัวหน้าสำนักงาน ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ดูแลคดี และ พ.ต.ท.พงศกร เข็มราช รองผกก.สอบสวน สภ.เมืองราชบุรี เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน
เพื่อสอบสวนนายคฑาวุฒิ แล้วส่งสำนวนร้องทุกข์กล่าวโทษให้ต่อ สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี อย่างไรก็ตาม นายคฑาวุฒิ ได้กล่าวกับ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ว่าตนเองเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย ทาง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี จึงบอกว่าหากดูแล้วมีอะไรที่ตนเองรู้สึกไม่ชอบมาพากลให้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะให้เบอร์ไว้ได้เลย แต่หากไม่สบายใจและกลัวมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พร้อมจะนำตัวมาดูแล
พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข ผบก.ภ.จว.ราชบุรี เปิดเผยว่า ความคืบหน้าสำหรับคดีนายตำรวจทั้ง 5 นาย ทาง ภ.จว.ราชบุรี แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคดีวินัย ทาง ภ.จว.พิจารณาแล้วเป็นข้อกล่าวหาร้ายแรง ให้พิจารณาสอบสวนคดีร้ายแรง เบื้องต้นให้ออกจากราชการไว้ก่อนทั้ง 5 นาย เพื่อที่จะให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ไม่มีการยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน ส่วนที่ 2 จะเป็นคดีอาญา แบ่งเป็น 2 พื้นที่ของ สภ.เขาดิน และ สภ.โพธาราม ทั้ง 2 โรงพัก ได้ดำเนินการสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว คาดว่าในวันนี้จะสรุปสำนวนเบื้องต้นส่งให้ ป.ป.ช. เพื่อให้ ป.ป.ช.พิจารณาต่อไป ซึ่งทาง ป.ป.ช. อาจจะส่งเรื่องต่อให้ ป.ป.ท.ดำเนินการก็ได้ จะมีกำหนดเวลา 30 วัน
“ทั้งนี้ จากกรณีที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความว่าโดนกระทำเหมือนกันจากตำรวจชุดนี้จะให้ทาง สภ.พื้นที่ได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริง และดำเนินคดีตามพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นต่างกรรมต่างวาระกันไป ถ้าผู้เสียหายเกิดความวิตกกังวลหรือรู้สึกไม่ปลอดภัยทาง ภ.จว.เราจะมีการคุ้มครองผู้เสียหาย โดยจะส่งชุดสายสืบเข้าไปดูแลความปลอดภัยเป็นพิเศษ”
ผบก.ภ.จว.ราชบุรี กล่าวว่า ขณะเดียวกันหลัง นายคฑาวุฒิ แย้มกลัด ผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลต่อพนักงานสอบสวน จึงเดินทางมาลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองราชบุรี พร้อมได้เปิดเผยข้อมูลกับทางผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ตนได้มาให้ปากคำต่อทางผู้การฯ ราชบุรี ตนพูดไปตามความจริงที่ให้สัมภาษณ์ไปครั้งแรก ซึ่งทางตำรวจจะประสานทาง สภ.โพธาราม เพื่อสืบทราบเรื่องราวทั้งหมดว่าเป็นความจริงหรือไม่ พร้อมจะประสานขอคืนรถจักรยานยนต์ให้แก่ตน ส่วนเรื่องคดีอื่นๆ ตนไม่ติดใจเอาความ ขอเพียงได้รถจักรยานยนต์คืนเท่านั้น
“แต่ถ้าหากตนไม่ได้รถจักรยานยนต์คืนจริงๆ ตนจะไปแจ้งความใหม่ ส่วนเรื่องความไม่ปลอดภัยที่ตนกังวลนั้น ผู้การฯ ราชบุรี ยืนยันกับตนว่า จะดูแลความปลอดภัยให้เต็มที่อยู่แล้ว แต่ตนติดใจเพียงนิดเดียวว่า ช่วงที่ตนได้ให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนว่ามีการเปลี่ยนคดีของตน แต่ใบบันทึกประจำวันกลับไม่มีข้อความดังกล่าวที่ตนให้ปากคำไว้” นายคฑาวุฒิ ผู้เสียหายกล่าว