ราชบุรี - โผล่อีกรายเหยื่อตำรวจชุดรีดเงินสาวท้อง มีเจ้าทุกข์มาร้องเรียนว่าถูกตำรวจชุดดังกล่าวยัดยา พร้อมยื่นข้อเสนอเปลี่ยนคดีเป็นโพยหวย ให้พาเข้าห้องขัง 1 คืน และขอรถจักรยานยนต์ไป 1 คัน เผยได้ติดต่อประสานผู้การฯ พร้อมนำเอกสารหลักฐานไปมอบให้ในวันพรุ่งนี้
จากกรณีที่ พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข ผบก.ภ.จว.ราชบุรี เปิดเผยถึงกรณีสาวท้อง 4 เดือน ไปแจ้งความที่ สภ.เขาดิน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ว่า ถูกตำรวจกลุ่มหนึ่งบุกค้นบ้านคืนวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมบังคับให้ส่งเงิน 9,500 บาท ที่เตรียมไว้ฝากครรภ์ไป โดยอ้างตรวจค้นคดียาเสพติด พร้อมให้ญาตินำเงิน 30,000 บาท ไปเคลียร์คดี ซึ่งกรณีดังกล่าวได้สั่งย้ายตำรวจทั้ง 5 นาย มาประจำที่ ศปก.ภ.จ.ราชบุรี แล้ว ซึ่งมีนายตำรวจระดับสัญญาบัตร 2 นาย ชั้นประทวน 3 นาย พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย โดยจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
ขณะที่ น.ส.หวาน (นามสมมติ) อายุ 18 ปี สาวท้องผู้เสียหายกล่าว่า หลังจากตนไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เขาดิน ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. เพื่อดำเนินคดีตำรวจชุดดังกล่าว ในข้อหาบุกรุก และกรรโชกทรัพย์ ซึ่งขณะนี้ตนและญาติที่อยู่ในคืนเกิดเหตุได้ไปให้ปากคำเพิ่มเติมมา 5 วันแล้ว แม้จะมีการส่งมอบเงินคืนมาให้หมดแล้ว แต่ตนจะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ล่าสุด วันนี้ (10 ม.ค.) นายเอก (นามสมมติ) ผู้เสียหายรายใหม่ชาว อ.โพธาราม ออกมาแฉถึงพฤติกรรมของตำรวจกลุ่มดังกล่าวที่ตกเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ โดยระบุว่า เมื่อคืนวันที่ 3 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ตนได้รับการติดต่อจากเพื่อนที่รู้จักกันให้ช่วยพาไปดูยาให้ 10 เม็ด ซึ่งตนไม่อยากจะไปยุ่ง แต่เพื่อนตกลงจะให้เงิน 100 บาท เป็นค่าจ้างพาไป ซึ่งช่วงนั้นตนไม่มีเงินเพราะเพิ่งจะพ้นโทษออกมา จึงตัดสินใจยอมรับจ้างไป
โดยตนนัดกับเพื่อนว่า ให้เอาเงินมาให้แล้วจะพาไป พอถึงเวลาตนเองไปที่จุดนัดหมายไว้กับเพื่อน ขณะจะจอดรถ จู่ๆ มีรถกระบะจอดประกบไว้ทันที ซึ่งจังหวะที่ประตูรถเปิดออก เห็นท่าไม่ดีเลยวิ่งหนี แต่มีตำรวจวิ่งตามมา 3 คน ส่วนอีก 2 คนนั่งรออยู่ที่รถ เมื่อวิ่งไปสักระยะหนึ่งรู้สึกเหนื่อย จึงโดนตำรวจตามทัน โดยได้สั่งให้หมอบลงแล้วซ้อมตน พร้อมถามว่าของอยู่ไหน ตนเองตอบว่าไม่มี ไม่มียาจริงๆ ตำรวจจึงลากตนไปที่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ พร้อมบอกว่า "ไม่เป็นไร มึงไม่ให้ของกู ไม่เป็นไรกูหาให้ได้ เดี๋ยวมึงโดนข้อหาจำหน่าย เพราะกูให้เพื่อนมึงมาล่อซื้อมึง" ตนเองจึงตอบไปว่า จำหน่ายอะไรตนไม่มียา แค่จะพาไปหาที่ซื้อให้เท่านั้น ต่อมา ตำรวจชุดดังกล่าวได้พาตนเองไปที่ สภ.โพธาราม แล้วขู่ว่าจะยัดยาให้ 10 เม็ด
พร้อมจะตั้งข้อหาจำหน่าย แต่ตนเองขอร้องและบอกว่าไม่มียาจริงๆ ตำรวจจึงยื่นข้อเสนอให้ไปหาล่อซื้อยา แต่ตนเองไม่ยอม ตำรวจจึงยื่นข้อเสนอใหม่ให้ โดยบอกว่า "เอาอย่างนี้ รถจักรยานยนต์มึง กูขอ แล้วกูจะทำเป็นคดีโพยหวยให้กับมึง" ซึ่งในตัวของตนเองไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย แต่เพราะความกลัวเนื่องจากเป็นตำรวจ และเคยมีประวัติ ตนเองจึงต้องยอมให้รถจักรยานยนต์ไป จากนั้นตำรวจชุดดังกล่าว ได้เปลี่ยนคดีเป็นโพยหวยให้แก่ตน และนำตนเองเข้าห้องขัง 1 คืน รุ่งเช้าจึงพาไปขึ้นศาล พร้อมเสียค่าปรับอีก 2,500 บาท ซึ่งเงินตรงนั้นญาติๆ ต้องไปหากู้ยืมเงินมาให้ ส่วนรถจักรยานยนต์ของตนเองราคาเกือบ 2 หมื่นบาท พร้อมทรัพย์สินใต้เบาะรถถูกตำรวจชุดดังกล่าวเอาไปโดยไม่ได้คืน
นายเอก ยังกล่าวอีกว่า เมื่อช่วงเดือน ก.พ.63 โดนตำรวจชุดดังกล่าวจับในคดียาเสพติด แต่ทางตำรวจได้เรียกเงิน 10,000 บาท เพื่อแลกกับการเปลี่ยนคดีจากยาเสพติด เป็นคดีอาวุธปืน ส่วนยาที่จับได้ตำรวจก็เอาไป พร้อมกับเงินอีกหมื่นกว่าบาทที่อยู่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ ทำให้ตนเองต้องติดคุกไป 8 เดือน และเพิ่งพ้นโทษออกมาช่วงเดือน ก.ย.63 ซึ่งตนเองทราบว่า ตำรวจชุดนี้ทำแบบนี้มาหลายรายแล้ว ที่ผ่านมา ยอมรับว่าเคยเสพยาและหาซื้อยามาเพื่อเสพ แต่ตำรวจชุดนี้จ้องจะจับและจะยัดข้อหาจำหน่ายให้ตนเอง ทำให้กลัวจะไม่ได้รับความปลอดภัย จนต้องหนีไปอยู่ต่างจังหวัดบ้าง กรุงเทพฯ บ้าง พอมีโอกาสถึงแอบกลับมาเยี่ยมบ้าน โดยขณะนี้ ได้ติดต่อประสานงานขอเข้าพบ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี เพื่อนำเอกสารหลักฐานไปมอบให้ในวันพรุ่งนี้
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวยังทราบว่า ยังมีเหยื่ออีกหลายรายที่ถูกจับถูกล่อซื้อยาเสพติด และถูกเรียกร้องเงิน หรือทรัพย์สินจากตำรวจชุดนี้เพื่อเคลียร์คดีหรือเปลี่ยนคดี โดยเหยื่อหลายรายต้องทำให้พ่อแม่และญาติที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวได้รับความเดือดร้อนในการกู้ยืมเงิน หรือนำทรัพย์สินมาให้ในการเคลียร์คดี ซึ่งเหยื่อหลายรายอยากจะออกมาเปิดโปงพฤติกรรมของตำรวจชุดนี้ แต่เกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย เนื่องจากตำรวจชุดนี้ได้ขอให้นักการเมืองท้องถิ่นบางคนเข้ามาช่วยเคลียร์คดีให้อยู่ จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย