อุดรธานี - โควิด-19 ระลอกใหม่ทำผู้ประกอบการร้านชุดเช่าสูญรายได้หลักล้านบาท หลังจังหวัดอุดรธานีได้ประกาศงดกิจกรรมรำบวงสรวงครบรอบการก่อตั้งเมืองอุดรธานี 128 ปี ชี้เข้าใจสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่ต้องใช้มาตรการเข้มเพื่อป้องกันแพร่ระบาด ต้องนึกถึงผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอุดรธานี ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา มีมติให้ทุกภาคส่วนดำเนินงานตามมาตรการข้อกำหนดในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 16) เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอุดรธานี จึงมีมติงดรำบวงสรวงกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม 18 มกราคม 2564 คงไว้เฉพาะพิธีกรรมตามความเชื่อและศรัทธา
นอกจากนี้ยังได้เลื่อนการจัดงานมรดกโลกบ้านเชียง และงานตรุษจีน ในขณะที่การเปิด-ปิดสถานบริการให้เป็นไปตามใบอนุญาต ส่วนสถานศึกษาหากจะปิดเรียนต้องผ่านมติคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ด้านร้านอาหารเปิดขายได้แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด
นายสุเนตร สารสิน เจ้าของร้านชุดเช่าบริเวณ ถ.ทหาร เขตเทศบาลนครอุดรธานี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ถือว่าเป็นปีแรกที่ทางร้านไม่ได้นำชุดรำบวงสรวงออกมาเตรียมไว้หน้าร้านซึ่งจะมีชุดเช่ามากถึง 4,000 ชุด โดยสีสัญลักษณ์เมืองอุดรก็คือสีแสด ปกติจะมีเต็มหน้าร้าน ในแต่ละปีก็จะมีคนมาเช่าจากทั้งในจังหวัดอุดรธานี ต่างอำเภอและต่างจังหวัดและต่างประเทศ ที่มีบ้านเกิดอยู่ในจังหวัดอุดรธานี ต่างพากันเดินทางเพื่อมารำบวงสรวงถวายแด่กรมหลวงประจักษ์ผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานีในการขอพรตามวัตถุประสงค์ของนางรำแต่ละคน
“ยอมรับว่ารายได้ก็ต้องขาดหายไปเป็นธรรมดา แต่ก็เข้าใจกับสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นที่ทุกคนต้องช่วยกันในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยที่ผ่านมาเคยมีรายได้กว่า 6 แสนบาทจากจำนวนชุดเช่า 4 พันชุด” นายสุเนตรกล่าว และว่า
ทั้งนี้ยังไม่รวมผู้ประกอบการร้านชุดเช่ารายอื่นๆ และร้านเปิดใหม่ที่ได้เตรียมชุดเช่าอีกหลายพันชุด รวมถึงร้านทำผมแต่งหน้าที่ต้องขาดรายได้ เพราะในแต่ละปีที่จะมีนางรำหลายหมื่นคนเดินทางมารำจากทุกสารทิศ หากจะพูดถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจมูลค่าหลายล้านบาท แต่ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็ต้องคิดถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว อยากวิงวอนขอให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกลับเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้ง ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ที่ประชาชนต้องร่วมรับผิดชอบสังคมร่วมกัน เพราะวัคซีนที่ดีที่สุด คือ สวมมาสก์ หมั่นล้างมือ และรักษาระยะห่างทางสังคม ตามมาตรการของสาธารณสุข