กาญจนบุรี - ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี คุมเข้ม ประกาศคำสั่งป้องกันโควิด-19 ฉบับที่ 2 ปิดตู้เกม เครื่องเล่นหยอดเหรียญ โรงภาพยนตร์ สถานออกกำลังกาย ฟิตเนส ที่ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าและโต๊ะสนุกเกอร์ ฝ่าฝืนเจอทั้งคุก-ปรับ
วันนี้ (7 ม.ค.) นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี/ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี/ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ประกาศคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 63/2564 เรื่อง การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี
คำสั่งดังกล่าว ระบุว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทยมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ขยายขอบเขตการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างกระจายไปในหลายพื้นที่ และมีแนวโน้มที่จะพบการแพร่ระบาดไปยังผู้ติดเชื้อรายใหม่ โดยเฉพาะสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี จึงกำหนดมาตรการให้ดำเนินการ ดังนี้
1.ให้ปิดสถานที่ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นการชั่วคราว ดังนี้ ตู้เกม เครื่องเล่นหยอดเหรียญ โรงภาพยนตร์ สถานออกกำลังกายฟิตเนสที่ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า หรือคอมมูนิตีมอลล์ 2.โต๊ะสนุกเกอร์ รวมถึงสถานที่ที่มีลักษณะคล้ายกัน
สำหรับสถานที่ที่ให้เปิดดำเนินการได้ ภายใต้เงื่อนไข เงื่อนเวลา และมาตรการที่ทางราชการกำหนด ดังนี้
สถานออกกำลังกายฟิตเนสที่มิได้ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า หรือคอมมูนิตีมอลล์ ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค มาตรการควบคุมหลัก
1.ทำความสะอาดพื้น ห้องสุขาก่อนและหลังให้บริการ สำหรับพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อยๆ เครื่องเล่น อุปกรณ์ และห้องอาบน้ำทำความสะอาดทั้งก่อนและหลังการใช้บริการทุกครั้ง และให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน 2.ให้ผู้ประกอบการ พนักงานบริการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า สำหรับผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าทั้งก่อนและหลังใช้บริการ
3.ให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค 4.ให้เว้นระยะนั่งหรือยืน ระยะห่างระหว่างเครื่องออกกำลังกาย/อุปกรณ์ อย่างน้อย 2 เมตร และลดการใกล้ชิดกันระหว่างออกกำลังกาย
5.ให้ควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการ มิให้แออัด และจำกัดระยะเวลาการใช้บริการไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน 6.จัดให้มีการให้คำแนะนำผู้ใช้บริการ ตรวจตรา ควบคุม กำกับการให้บริการและการใช้บริการให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมหลักอย่างเคร่งครัด 7.ให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่ และเพิ่มมาตรการใช้แอปพลิเคชันติดตามตัวทางโทรศัพท์เคลื่อนที่มาใช้ได้ตามความเหมาะสม หรือใช้มาตรการควบคุมด้วยการบันทึกข้อมูล และรายงานทดแทนได้
มาตรการเสริม 1.มีมาตรการคัดกรองไข้ และอาการไอ หอบเหนื่อย จาม หรือเป็นหวัด สำหรับผู้ประกอบการ พนักงานบริการ และผู้ใช้บริการก่อนเข้าอาคาร ทั้งนี้ ให้รายงานหน่วยงานรับผิดชอบกรณีพบผู้ที่เข้าเกณฑ์ สอบสวนโรค ตามแนวทางที่กำหนด
2.จัดให้มีระบบเก็บข้อมูลและติดตามผู้ใช้บริการ ฟิตเนสได้ทุกคน หากพบผู้ป่วยหรือผู้ที่มีอาการเข้าได้กับเกณฑ์สอบสวนโรค ภายหลังจากการใช้บริการได้ 3.อาจให้ผู้ใช้บริการ และพนักงานบริการสวมเฟซชิลด์ขณะใช้บริการ
4.จัดให้มีการระบายอากาศภายในอาคารที่ดี ทั้งบริเวณห้องสุขา และห้องอาบน้ำ ทั้งนี้ ให้งดบริการในส่วนการอบตัว อบไอน้ำ 5.จัดให้มีระบบคิว และมีพื้นที่รอคิวที่มีที่นั่งหรือยืน ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร โดยมีพื้นที่สำหรับ ฟรีเวตด้วยดัมเบลและบาร์เบล อย่างน้อย 5 ตารางเมตร ต่อผู้ใช้บริการ 1 คน
สถาบันกวดวิชาที่ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า หรือคอมมูนิตีมอลล์ ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ดังนี้
มาตรการควบคุมหลัก 1.ทำความสะอาดพื้น พื้นผิวสัมผัสบ่อยๆ ทั้งก่อนและหลังการให้บริการ และให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน 2.ให้ผู้ประกอบการ พนักงาน และผู้ใช้บริการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า 3.ให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
4.ให้เว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร 5.ให้ควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการมิให้แออัดและรวมกลุ่มกัน หรือลดเวลาในการทำกิจกรรมเท่าที่จำเป็น โดยถือหลักหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน และ 6.เพิ่มมาตรการใช้แอปพลิเคชันติดตามตัวทางโทรศัพท์เคลื่อนที่มาใช้ได้ตามความเหมาะสม หรือใช้มาตรการควบคุมด้วยการบันทึกข้อมูลและรายงานทดแทนได้
มาตรการเสริม 1.ให้มีการควบคุมทางเข้าออก ลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่ โดยจัดให้มีพื้นที่เพียงพอในการเว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 1 เมตร 2.มีการคัดกรองไข้ และอาการไอ หอบเหนื่อย จาม หรือเป็นหวัด สำหรับผู้ประกอบการ พนักงานบริการ และผู้ใช้บริการ ก่อนเข้าอาคาร ทั้งนี้ ให้รายงานหน่วยงานรับผิดชอบกรณีพบผู้ที่เข้าเกณฑ์ สอบสวนโรค ตามแนวทางที่กำหนด
3.ควบคุมมิให้มีกิจกรรมที่ใช้เสียงดังภายในสถานที่ รวมถึงงดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความแออัดหรือมีการรวมกลุ่มคน 4.จัดให้มีการระบายอากาศภายในอาคารที่ดี รวมถึงภายในห้องสุขา
ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้โดยไม่มีเหตุอันสมควรจะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ