เชียงราย - ทั้งแม่ทัพภาคที่ 3-ผบช.ภ.5-ผู้ว่าฯเชียงใหม่..ยกคณะตามส่องช่องทางธรรมชาติชายแดนแม่สาย-เส้นทางสาว 1G1 นำโควิดเข้าไทย หาไทม์ไลน์สาวซาลอนอยุธยากลับจากแม่อายติดเชื้อ ด้านพม่าส่งคนไทยตกค้างกลับอีกเกือบ 40 ราย พบติดโควิดด้วย 1
วันนี้ (23 ธ.ค.) พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานติดตามการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จ.เชียงราย ได้ลงพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ติดต่อกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา
เพื่อตรวจสอบช่องทางธรรมชาติที่หญิงสาวผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 คนแรกจาก จ.เชียงใหม่ ใช้หลบหนีเข้าเมืองช่วงปลายเดือน พ.ย. 2563 ที่ผ่านมา และยังมีคนอื่นๆ อย่างน้อย 12 รายที่ติดไวรัสโควิด-19 จากท่าขี้เหล็ก ลักลอบเข้ามาในลักษณะเดียวกัน
รวมทั้งสืบหาไทม์ไลน์ของหญิงสาวชาวอยุทธยา วัย 29 ปี ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีประวัติไปทำงานที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ติดต่อกับ อ.แม่จัน จ.เชียงราย เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสืบทราบได้ว่าหญิงสาวคนดังกล่าวได้ติดเชื้อไวรัสโควิดมาจากไหน เพราะในพื้นที่ที่ทำงานยังไม่พบผู้ติดเชื้อ
ทั้งนี้ นายเจริญฤทธิ์ ได้หารือกับฝ่ายทหารที่ตรวจสอบแนวชายแดนทราบว่า อ.แม่อาย ติดต่อกับด้าน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และทาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ซึ่งเชื่อมต่อกับชายแดน อ.แม่สาย จึงตั้งข้อสันนิษฐานว่าหญิงสาวคนดังกล่าวอาจจะติดเชื้อมาจากผู้ที่ลักลอบเข้ามาทางชายแดน อ.แม่สาย เพราะปัจจุบันมีรถโดยสารประจำทางเมล์เขียว หรือกรีนบัสจาก อ.แม่สาย ไปยัง อ.ฝาง ช่วงเวลา 14.00 น.และ 15.00 น.
แต่จากการตรวจสอบกลับพบว่า ในวันที่ 16 ธ.ค.ซึ่งหญิงสาวใช้บริการรถรับจ้างไปยัง อ.ฝาง เพื่อจะกลับ จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อไปนั้น ไม่มีรถให้บริการแต่อย่างใด มีเพียงรถตู้ที่ให้บริการจาก อ.แม่สาย ไปยัง อ.เมืองเชียงราย เท่านั้น จึงสรุปได้ว่าไม่น่าจะเป็นการติดเชื้อจากจากคนที่เดินทางไปจาก อ.แม่สาย
ด้าน พล.ท.อภิเชษฐ์ กล่าวว่า ชายแดนที่มีข่าวว่าผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากประเทศเพื่อนบ้านลักลอบเข้ามาได้นั้น ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่อย่างหนาแน่นจึงบอกว่าได้ ณ วันนี้คงไม่มีใครสามารถลักลอบผ่านพื้นที่ไปได้ ส่วนข่าวเรื่องขบวนการนำพาคนข้ามไปมานั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เช่นกัน เพราะมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานทำงานอยู่ทั้งชายแดนทางบกไปจนสิ้นสุดแม่น้ำโขงที่เป็นชายแดนไทย-สปป.ลาว
“มาตรการคุมเข้มดังกล่าวมีมาตั้งแต่พบหญิงสาวกลับจากท่าขี้เหล็กติดเชื้อโควิดที่เชียงใหม่ เป็นรายแรกแล้วและล่าสุดได้เพิ่มกำลังอีก 2 กองร้อยเข้าประจำการชายแดน อ.แม่สาย จึงยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ประกอบกับในปัจจุบันได้มีการประสานกับทางท้องถิ่นของประเทศเมียนมาในการส่งตัวคนไทยกลับมาทางช่องทางปกติ เพื่อรับเข้าสถานกักกันของรัฐจึงสรุปได้ว่าชายแดนด้าน จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย สามารถป้องกันการหลุดลอดเข้ามาตามแนวชายแดนได้ 100%”
วันเดียวกัน มีรายงานว่า ทางการท้องถิ่น จ.ท่าขี้เหล็ก ได้ส่งตัวคนไทยที่ตกค้างอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ผ่านด่านฯกลับเข้าไทยช่วงเช้าที่ผ่านมา 10 ราย และช่วงบ่ายอีก 29 ราย เป็นหญิง 20 ราย และชาย 9 ราย รวมทั้งหมด 39 ราย โดย 1 ในนั้นพบว่าติดเชื้อโควิดด้วย