ระยอง - ยุ่งทั้งประเทศ! ผวจ.ระยอง แถลงไม่พบเชื้อโควิด-19 ในลูกเรือประมงจาก จ.สมุทรสาคร ที่เข้าเทียบแพปลาในพื้นที่ พร้อมประกาศมาตรการเข้มคัดกรองแรงงานต่างด้าวโดยเฉพาะที่มากับเรือประมง สร้างความมั่นใจคนพื้นที่ ส่วนงานวันพระเจ้าตากสินมหาราช ขอเวลา 7 วันตัดสินใจจัดหรือไม่
จากกรณีที่มีเรือประมงซึ่งเดินทางมาจาก จ.สมุทรสาคร เข้าเทียบท่ายังแพปลาแห่งหนึ่งใน ต.ปากน้ำ อ.เมืองระยอง โดยมีลูกเรือจำนวน 37 คน จนเกิดกระแสหวั่นวิตกว่าอาจเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ระยอง นั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00น.วันนี้ (21 ธ.ค.) นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้เปิดแถลงข่าวผลการส่งเจ้าหน้าที่ทีม CDCU เข้าสอบสวนโรคและเก็บตัวอย่างเนื้อเยื้อหาเชื้อโควิด-19 จากลูกเรือประมง โดยมี นายแพทย์สุนทร เหรียญภูมิการกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง และประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมศูนย์บริหารและประสานการปฏิบัติเพื่อเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง
พร้อมชี้แจงว่า เรือประมงลำดังกล่าวได้ทำการประมงบริเวณน่านน้ำอ่าวไทย และออกเดินทางจากท่าเทียบเรือประมงและเขื่อนกันคลื่น อ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีลูกเรือ 37 คน แบ่งเป็นลูกเรือสัญชาติไทย 5 คน พม่า 30 คน และลาว 2 คน ซึ่งได้เข้าเทียบท่าบริเวณแพปลา ถนนสมุทรคงคา เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ก่อนจะออกทำการประมงที่น่านน้ำอีก 2 ครั้ง ระหว่างวันที่ 11-14 ธ.ค. และวันที่ 15-19 ธ.ค.ก่อนเดินทางกลับเข้าท่าเมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ยังเผยอีกว่า ในวันดังกล่าวไต๋เรือ และน้องชายซึ่งเป็นคนไทยได้เดินทางกลับสมุทรสาคร โดยมีภรรยาไต๋เรือมารับที่ท่าเรือ ส่วนลูกเรือ 35 คนพักอยู่บนเรือ (บริเวณแพปลา) และได้พากันเดินทางไปหาซื้อของกินที่ร้านขายของชำใกล้แพปลา
โดยในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคัดกรองอาการลูกเรือทั้ง 35 คน พบว่าอาการปกติ และได้เก็บตัวอย่างเนื้อเยื้อส่งตรวจหาเชื้อ SARS-CoV2 จำนวน 35 ตัวอย่าง ผลการตรวจไม่พบเชื้อ จึงให้ลูกเรือทุกคนกักตัวอยู่บนเรือที่บริเวณแพปลา และขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัวแม่ค้าและชาวกัมพูชาที่ทำงานคัดเลือกปลาที่แพปลาดังกล่าวอีกประมาณ 20 คน มาตรวจคัดกรองเพื่อหาความเสี่ยงการติดเชื้อ
“หากประชาชนที่เดินทางไปตลาดเดียวกับกลุ่มเสี่ยงซึ่งเป็นลูกเรือที่เดินทางมาจาก จ.สมุทรสาคร ขอให้เข้ามารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเพื่อตรวจคัดกรอง ซึ่งขณะนี้มีผู้เข้ามาขอคำปรึกษาทางโทรศัพท์แล้ว 53 ราย และมีประชาชนเดินทางไปขอตรวจที่โรงพยาบาลระยองอีก 10 ราย ซึ่งผลการตรวจไม่พบเชื้อแต่อย่างใด ส่วนประชาชนที่เดินทางไปตลาดกุ้ง จ.สมุทรสาคร 2 ราย เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างเชื้อส่งตรวจแล้วและไม่พบว่ามีการติดโรคโควิด-19 แต่อย่างใด”
ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ยังกล่าวอีกว่า จากการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดระยอง ได้ข้อสรุปตรงกันเกี่ยวกับการใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะลูกเรือประมงและแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา จะต้องเข้ารายงานตัวที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกคนเพื่อทำการตรวจคัดกรอง
ส่วนกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่เดินทางไปค้าขายที่ จ.สมุทรสาคร เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ขณะนี้ได้สั่งการให้ประมงจังหวัด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและสาธารณสุขจังหวัด ลงพื้นที่สุ่มตรวจแรงงานต่างด้าวที่ประกอบอาชีพประมงในทุกอำเภอ พร้อมสั่งการให้ทุกอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งสาธารณสุขอำเภอ ออกตรวจสถานบริการ ตลาดนัด โรงแรม และสถานที่มีผู้คนแออัด เพื่อทำการตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้นแล้ว”
ขณะที่การจัดงานวันพระเจ้าตากสินมหาราช ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 ธ.ค.นี้ จังหวัดระยอง จะขอเวลา 7 วัน ในการพิจารณาว่าจะงดจัดงานหรือไม่อย่างไร
จากกรณีที่มีเรือประมงซึ่งเดินทางมาจาก จ.สมุทรสาคร เข้าเทียบท่ายังแพปลาแห่งหนึ่งใน ต.ปากน้ำ อ.เมืองระยอง โดยมีลูกเรือจำนวน 37 คน จนเกิดกระแสหวั่นวิตกว่าอาจเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ระยอง นั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00น.วันนี้ (21 ธ.ค.) นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้เปิดแถลงข่าวผลการส่งเจ้าหน้าที่ทีม CDCU เข้าสอบสวนโรคและเก็บตัวอย่างเนื้อเยื้อหาเชื้อโควิด-19 จากลูกเรือประมง โดยมี นายแพทย์สุนทร เหรียญภูมิการกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง และประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมศูนย์บริหารและประสานการปฏิบัติเพื่อเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง
พร้อมชี้แจงว่า เรือประมงลำดังกล่าวได้ทำการประมงบริเวณน่านน้ำอ่าวไทย และออกเดินทางจากท่าเทียบเรือประมงและเขื่อนกันคลื่น อ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีลูกเรือ 37 คน แบ่งเป็นลูกเรือสัญชาติไทย 5 คน พม่า 30 คน และลาว 2 คน ซึ่งได้เข้าเทียบท่าบริเวณแพปลา ถนนสมุทรคงคา เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ก่อนจะออกทำการประมงที่น่านน้ำอีก 2 ครั้ง ระหว่างวันที่ 11-14 ธ.ค. และวันที่ 15-19 ธ.ค.ก่อนเดินทางกลับเข้าท่าเมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ยังเผยอีกว่า ในวันดังกล่าวไต๋เรือ และน้องชายซึ่งเป็นคนไทยได้เดินทางกลับสมุทรสาคร โดยมีภรรยาไต๋เรือมารับที่ท่าเรือ ส่วนลูกเรือ 35 คนพักอยู่บนเรือ (บริเวณแพปลา) และได้พากันเดินทางไปหาซื้อของกินที่ร้านขายของชำใกล้แพปลา
โดยในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคัดกรองอาการลูกเรือทั้ง 35 คน พบว่าอาการปกติ และได้เก็บตัวอย่างเนื้อเยื้อส่งตรวจหาเชื้อ SARS-CoV2 จำนวน 35 ตัวอย่าง ผลการตรวจไม่พบเชื้อ จึงให้ลูกเรือทุกคนกักตัวอยู่บนเรือที่บริเวณแพปลา และขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัวแม่ค้าและชาวกัมพูชาที่ทำงานคัดเลือกปลาที่แพปลาดังกล่าวอีกประมาณ 20 คน มาตรวจคัดกรองเพื่อหาความเสี่ยงการติดเชื้อ
“หากประชาชนที่เดินทางไปตลาดเดียวกับกลุ่มเสี่ยงซึ่งเป็นลูกเรือที่เดินทางมาจาก จ.สมุทรสาคร ขอให้เข้ามารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเพื่อตรวจคัดกรอง ซึ่งขณะนี้มีผู้เข้ามาขอคำปรึกษาทางโทรศัพท์แล้ว 53 ราย และมีประชาชนเดินทางไปขอตรวจที่โรงพยาบาลระยองอีก 10 ราย ซึ่งผลการตรวจไม่พบเชื้อแต่อย่างใด ส่วนประชาชนที่เดินทางไปตลาดกุ้ง จ.สมุทรสาคร 2 ราย เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างเชื้อส่งตรวจแล้วและไม่พบว่ามีการติดโรคโควิด-19 แต่อย่างใด”
ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ยังกล่าวอีกว่า จากการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดระยอง ได้ข้อสรุปตรงกันเกี่ยวกับการใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะลูกเรือประมงและแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา จะต้องเข้ารายงานตัวที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกคนเพื่อทำการตรวจคัดกรอง
ส่วนกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่เดินทางไปค้าขายที่ จ.สมุทรสาคร เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ขณะนี้ได้สั่งการให้ประมงจังหวัด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและสาธารณสุขจังหวัด ลงพื้นที่สุ่มตรวจแรงงานต่างด้าวที่ประกอบอาชีพประมงในทุกอำเภอ พร้อมสั่งการให้ทุกอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งสาธารณสุขอำเภอ ออกตรวจสถานบริการ ตลาดนัด โรงแรม และสถานที่มีผู้คนแออัด เพื่อทำการตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้นแล้ว”
ขณะที่การจัดงานวันพระเจ้าตากสินมหาราช ที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 ธ.ค.นี้ จังหวัดระยอง จะขอเวลา 7 วัน ในการพิจารณาว่าจะงดจัดงานหรือไม่อย่างไร