ตราด - พ่อเมืองตราด สั่งหน่วยงานความมั่นคงคุมเข้มชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งบกและทะเล หลังพบแรงงานกลับบ้าน จ.พระตะบอง พื้นที่ระบาดโควิด-19 ก่อนนำกักตัว 14 วัน ล่าสุด ผญบ.เกาะช้าง นำทีมบุกตรวจแรงงานต่างด้าวบนเรือประมงป้องกันลอบเข้าเมืองผิด กม.
จากกรณีที่ นายภิญโญ ประกอบผล ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ได้รับรายงานจากนายอำเภอบ่อไร่ ว่า มีชาวกัมพูชา 2 ราย ซึ่งทำงานในประเทศไทยและได้เดินทางกลับไปเยี่ยมญาติที่ อ.สัมรูด จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา พื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จึงได้ส่งตัวชาวกัมพูชาเข้ากักตัวเป็นเวลา 14 วันในสถานที่กักตัวแห่งรัฐตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่เมื่อวานนี้นั้น
วันนี้ (11 ธ.ค.) นายภิญโญ ประกอบผล ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมด้วย นายพีระ เอี่ยมสุนทร นายอำเภอเมืองตราด นายภาณุวัฒน์ พุทธเกสร นายอำเภอบ่อไร่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ตำรวจ และผู้แทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน รวมทั้งตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามแนวชายแดน
โดยเฉพาะบริเวณช่องทางธรรมชาติบ้านท่าเส้น ต.แหลมกลัด อ.เมืองตราด และจุดผ่อนปรนบ้านมะม่วง ต.นนทรีย์ อ.บ่อไร่ เพื่อกำชับให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขัน ป้องกันการลักลอบข้ามแดนตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่ นายพรหมชนะ บุญล้อม ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง พร้อมทีมงานได้ออกตรวจสอบเรือประมงที่เข้าจอดเทียบท่าบริเวณสะพานปลาในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อสำรวจลูกเรือซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวรายใหม่
เพื่อตรวจสอบว่าเป็นการลักลอบเข้ามาทำงานโดยผิดกฎหมายในเรือประมงหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านรอบๆประเทศไทย มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ นายภิญโญ ประกอบผล ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ยังได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากประเทศเพื่อนบ้านตามข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทย อย่างเข้มข้น
โดยเฉพาะการเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทั้งทางบกและทางทะเล ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองจะต้องจัดชุดลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ยังขอให้หน่วยงานด้านความมั่นคงจัดชุดตรวจกำกับดูแลกิจการหรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ทั้งในพื้นที่ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร สถานประกอบการ สถานบันเทิงให้มากขึ้นด้วย
และยังได้ขอให้ผู้นำชุมชน รวมทั้งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเฝ้าสังเกตและกำกับดูแลบุคคลที่กลับเข้ามาในพื้นที่ ชุมชน เพื่อซักถามและให้คำแนะนำมาตรการป้องกันโรค ทั้งยังขอให้ทุกภาคส่วนเน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัย และหน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน รวมทั้งหมั่นล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล เพื่อป้องกันปัญหาการแพร่ระบาดรอบที่ 2