เชียงราย - น่าสะพรึง..พบสาวแหล่งบันเทิง 1G1 ข้ามด่านฯ จากท่าขี้เหล็กเข้ากักตัวใน LQ แม่สายติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มรวดเดียวถึง 9 ราย ทำยอดรวมผู้ป่วยติดเชื้อเชียงรายรอบนี้พุ่งเป็น 20 รายแล้ว
วันนี้ (6 ธ.ค.) นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นายแพทย์ ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย และนายแพทย์ ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ แถลงข่าวสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 พื้นที่ จ.เชียงราย
ล่าสุดจากการตรวจผู้ที่ผ่านเข้ามาทางจุดผ่านแดนถาวร สะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ติดกับ จ.ท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (พม่า) พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 9 ราย ทั้งหมดเป็นหญิง อายุ 20 ปี 21 ปี (3 คน) 22 ปี 23 ปี (2 คน) 25 ปี และ 44 ปี ซึ่งไม่มีอาการป่วยเลย
ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดทั้งหมด เดินทางข้ามด่านฯ เข้ามาตามระบบเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งเข้าไปดูอาการและตรวจโรคที่สถานกักดูอาการ หรือ Local quarantine (SLQ) อ.แม่สาย กระทั่งพบเชื้อ ซึ่งขณะนี้ถูกส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์แล้ว
ทำให้ขณะนี้ยอดผู้ป่วยโควิดสะสมในเชียงรายเพิ่มเป็น 20 ราย พบใน LQ จำนวน 14 ราย ติดเชื้อหลังจากหลบหนีเข้ามา 5 ราย และกลุ่มที่สัมผัสกับผู้หลบหนีเข้าเมืองมาในเขต อ.เมืองเชียงราย จำนวน 1 ราย ส่วนกลุ่มผู้สัมผัสผู้ป่วยสาวประเภทสองใน อ.เมืองเชียงราย ที่ได้ตระเวนไปเที่ยวงานในสิงห์ปาร์ค-สถานบันเทิงต่างๆ อีกหลายแห่ง ทำให้มีกลุ่มเสี่ยงสูงจำนวน 22 ราย และเสี่ยงต่ำกว่า 200 ราย แต่ผลการตรวจหาเชื้อพบว่ากลุ่มเสี่ยงมีผลเป็นลบทั้งหมด
นายประจญกล่าวว่า ผู้พบเชื้อทั้งหมดล้วนมาจากโรงแรม 1G1 ท่าขี้เหล็ก ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดที่มากถึง 9 รายนี้ไม่เหนือความคาดหมาย เพราะทั้งหมดทำงานและพักอาศัยด้วยกันมานานตั้งแต่ข้ามจากฝั่งไทยไป และผู้ที่ถูกพบเชื้อทั้งหมด 20 รายก็มาจากโรงแรมเดียวกันนี้ถึง 19 ราย ยกเว้นรายที่ 7 ที่เป็นสาวประเภทสองที่พบใน อ.เมืองเชียงรายดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้วางกำลังป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองอย่างแน่นหนาตลอดแนวชายแดน และยังคงรอรับผู้ที่จะเดินทางกลับผ่านด่านฯ ตามระบบอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ผ่านมาก็มีคนเดินทางกลับมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ทั้งที่รักษาตัวอยู่และอยู่ใน LQ รวมทั้งหมด 171 รายแล้ว
ทั้งนี้ จ.เชียงรายยังคงมีประกาศให้ผู้ที่รู้ตัวว่าหลบหนีเข้ามาก่อนหน้านี้รีบเข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยเร็ว และตนยังเชื่อมั่นว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เพราะผู้พบเชื้อส่วนใหญ่อยู่ใน LQ ส่วนผู้ที่ลักลอบเข้ามาก็มีกลุ่มสัมผัสในวงจำกัด จึงเชื่อว่าหากผ่านไปอีก 14-25 วัน เชียงรายก็จะปลอดภัยและเป็นของขวัญปีใหม่ 2564 ให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้แน่นอน
นายแพทย์ ทศเทพกล่าวว่า ทั้ง 9 รายที่พบเชื้อกลุ่มนี้เดินทางเข้ามาพร้อมกัน 16 คน ที่เหลืออีก 7 คนไม่พบเชื้อ จึงเป็นเรื่องที่ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะหากปล่อยให้หลบหนีเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติจะต้องพบกับความยุ่งยากอย่างมากแน่นอน
อย่างไรก็ตาม จังหวัดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยมีการนำรถชีวนิรภัยพระราชทาน 3 คัน และทางโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์สุ่มตรวจต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงสัมผัสผู้ป่วยรายที่ 7 (สาวประเภทสอง) แม้ผลตรวจจะเป็นลบหมด แต่เนื่องจากผู้ติดเชื้อไปในงานที่มีคนจำนวนมาก ที่ผ่านมามีคนไปตรวจแล้ว 3,367 ราย พบผลเป็นลบ 2,113 ราย และรอผลอีก 1,254 ราย
ด้านนายแพทย์ ไชยเวชกล่าวว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์มีการจัดห้องรองรับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ถึง 30 เตียง และปรับอาคาร 5 ชั้นเพื่อทำการดูแลรักษา จึงมั่นใจว่าสามารถควบคุมได้ และผู้ป่วยรายแรกก็จะครบกำหนดการรักษา โดยหายเป็นปกติในวันที่ 8 ธ.ค.นี้แล้ว
