xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯเรียกถกแผนสกัดโควิดลามด่วน 10 โมงนี้ หลังสาว 29 ลอบข้ามแดนติดเชื้อโผล่เชียงใหม่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ท่าขี้เหล็ก/เชียงราย - ผู้ว่าฯ เชียงราย เรียกประชุมวางแผนสกัดด่วน 10 โมงวันนี้ หลังโควิดท่าขี้เหล็กลามเพิ่มพบติดเชื้อแล้ว 15 ราย แถมสาว 29 ลอบข้ามฝั่งติดเชื้อโผล่เชียงใหม่ซ้ำ ทำข่าวลือแพร่สะพัดจนภาคธุรกิจการค้าหวั่นปิดด่านสูญหมื่นล้าน


กรณีมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) ติดกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งพบผู้ป่วยประมาณ 15 คนแล้ว และล่าสุดพบผู้ป่วยหญิงสาววัย 29 ปีที่เชียงใหม่ ที่มีประวัติลักลอบข้ามแดนไปจากทาง อ.แม่สาย เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมาด้วยนั้น

ล่าสุด นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้นัดประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย และศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) ณ ศาลากลาง จ.เชียงราย ในเวลา 10.00 น.วันนี้ (29 พ.ย.) เพื่อสรุปข้อมูลและพิจารณามาตรการที่เหมาะสม ทำให้เกิดข่าวลือเรื่องการปิดด่านพรมแดนตรงสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 แพร่สะพัดไปทั่วและทำให้ผู้คนทั้งสองฝั่งประเทศเกิดความหวั่นเกรงว่าจะเป็นเรื่องจริงซึ่งจะส่งผลทำให้มีการขนสินค้าจากฝั่งไทยไปยังท่าขี้เหล็กอย่างขนานใหญ่ตั้งแต่วานนี้ (28 พ.ย.) ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ชายแดนต่างเข้มงวดป้องกันการลักลอบเข้ามาของชาวต่างด้าว รวมทั้งรอฟังคำสั่งจาก จ.เชียงราย

บรรยากาศในท่าขี้เหล็กคืนที่ผ่านมา (28 พ.ย.) เงียบเหงาลงถนัดตาหลังเกิดการระบาดของโควิด-19
ด้านแหล่งข่าวจากท่าขี้เหล็ก แจ้งว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านในท่าขี้เหล็ก ต่างหวั่นเกรงว่าจะมีการปิดด่านพรมแดนสะพานฯ แห่งที่ 2 ซึ่งเป็นจุดเดียวที่ยังเปิดให้ขนส่งสินค้าระหว่างไทย-พม่า ด้าน จ.เชียงราย แต่ทางการท้องถิ่นของพม่าก็ไม่ได้มีนโยบายปิดด่านฯ เนื่องจากจะเกิดผลกระทบอย่างหนัก

ส่วนการพบผู้ติดเชื้อในท่าขี้เหล็กนั้น ทางการพม่าอยู่ระหว่างดำเนินการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นและเชื่อว่าจะจัดการได้ โดยได้ควบคุมกลุ่มผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยงได้อย่างต่อเนื่องแล้ว ขณะที่การพบเชื้อไม่ได้เกิดจากพื้นที่โดยตรงแต่เป็นการเข้ามาของคนนอกพื้นที่ ดังนั้นจึงอยากให้ฝ่ายไทยหารือทั้งฝ่ายปกครองและฝ่ายทหารผ่านคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-พม่า ระดับท้องถิ่น หรือทีบีซี ก่อนจะตัดสินใจใดๆ ด้วย


น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และประธานหอการค้า อ.แม่สาย กล่าวว่า หลังจากมีกระแสดังกล่าวได้ดังกล่าวได้ทำให้ผู้ประกอบการค้าชายแดนได้พากันส่งออกสินค้าจากฝั่งไทยไปยังฝั่งท่าขี้เหล็กเป็นจำนวนมากกว่าเดิม เพราะเกรงว่าจะมีการปิดด่านพรมแดนที่เหลือเพียงจุดเดียวดังกล่าว

“ถ้าปิดด่านฯ สะพาน 2 จริง จะทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจการค้าชายแดนนับ 10,000 ล้านบาท ไม่ใช่เพียงแค่หลักสิบหรือหลักพันล้านบาท เพราะจะส่งผลในระยะยาว ส่วนสถานการณ์ในท่าขี้เหล็กนั้นได้สอบถามข้อมูลทราบว่าเจ้าหน้าที่พยายามควบคุมอย่างเต็มความสามารถ โดยมีมาตรการต่างๆ ออกมามากมาย ทั้งการรักษา การกักดูอาการของกลุ่มเสี่ยง การปิดสถานบันเทิง การปิดร้านค้าต่างๆ หรือแม้แต่การปิดตลาดเช้าที่เป็นหัวใจของการบริโภคของชาวท่าขี้เหล็กตั้งแต่ 10.00 น.เป็นต้นไปด้วย”

ชาวท่าขี้เหล็ก เริ่มกัดตุนอาหาร-สินค้าอุปโภคบริโภค รอรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังโควิดระบาด
ดังนั้น จึงอยากให้ทางการไทยได้พยายามพิจารณาเรื่องนี้ให้ละเอียด และหากจะมีการดำเนินการใดๆ ขอให้หารือกับทางฝ่ายปกครองและฝ่ายทหารของท่าขี้เหล็กด้วย เพราะเห็นว่าท้องถิ่นของทั้งสองฝ่ายโดยเฉพาะฝ่ายไทยได้เข้มงวดกวดขันตลอดแนวชายแดนแต่กรณีที่ จ.เชียงใหม่นั้น การลักอบข้ามฝั่งตามแนวชายแดนที่กว้างไกลสามารถเกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง แต่สามารถกำหนดมาตรการที่เข้มงวดขึ้นกว่าเดิมแทนการปิดด่านที่เหลือได้เช่นกัน

วันเดียวกันนี้ หลังจากทางการท่าขี้เหล็กได้มีประกาศให้ปิดร้านค้าต่างๆ ตามข้างทางตั้งแต่สะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 ไปจนถึงแห่งที่ 2 หลังเวลา 18.00 น. ทำให้บรรยากาศในท่าขี้เหล็กเงียบเหงาลงอีกมาก ชาวท่าขี้เหล็กต่างไม่กล้าออกนอกบ้าน แม้จะกำหนดเคอร์ฟิวระหว่างเวลา 00.00-04.00 น.เท่านั้นก็ตาม เนื่องจากได้ทราบถึงข่าวการแพร่ระบาดดังกล่าว

ขณะที่ร้านค้าทั่วไปที่ไม่ได้ตั้งอยู่บริเวณสองข้างทางดังกล่าวยังเปิดหลังเวลา 18.00 น. แต่ทางการท้องถิ่นท่าขี้เหล็กได้แจ้งให้ปิดพร้อมกับสถานบันเทิงต่างๆ ตั้งแต่เวลา 22.00 น.เป็นต้นไป และกรณีจะซื้ออาหารก็ห้ามนั่งรับประทานภายในร้านซึ่งพบว่าชาวท่าขี้เหล็กหลายรายต่างหาซื้ออาหารและเครื่องอุปโภคบริโภคไปกักตุนเอาไว้ เพื่อรอรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น