บุรีรัมย์ - หนุ่มวัย 35 ปีซิ่งรถยนต์รุ่นคลาสสิกจะไปเยี่ยมพ่อที่ รพ.นางรอง เสียหลักหลุดโค้งพุ่งชน จยย.พ่อเฒ่าวัย 85 ปี ทับร่างดับคาใต้ท้องรถ ตำรวจนำตัวไปสอบสวนตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์พบเกิน กม.กำหนด แจ้ง 2 ข้อหาถึงกับน้ำตาคลอยกมือไหว้ขอโทษญาติคนตาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ศักดิ์ชัย กิตติอุดพันธ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุร่างติดใต้ท้องรถ จึงได้ประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลนางรอง และหน่วยกู้ภัยฯ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุเป็นถนนสายบ้านเก่า-แพงพวย ต.นางรอง อ.นางรอง ซึ่งเป็นทางโค้งใกล้กับศาลาชุมชน พบรถยนต์อเนกประสงค์ ยี่ห้อนิสสัน ซาฟารี สีเขียว ทะเบียน นห 6239 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้ามีรอยชนเสียหาย ใต้ท้องรถพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน ขธร 76 บุรีรัมย์ พร้อมกับศพของ นายเฉย พรหมชนะ อายุ 85 ปี ซึ่งเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ติดอยู่ใต้ท้องรถในสภาพไม่สวมเสื้อ ใส่เพียงกางเกง มีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณหน้าอกและตามร่างกายเนื่องจากถูกชนอย่างแรงและลากร่างติดมาใต้ท้องรถด้วย โดยหน่วยกู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างงัดกว่า 10 นาทีจึงสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากใต้ท้องรถได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายสุรเดช ดำรงศักดิ์ อายุ 35 ปี ชาว ต.หนองยายพิมพ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ คนขับรถยนต์ ซึ่งอยู่ในอาการคล้ายคนเมา ไปสอบสวนและตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ซึ่งจากการสอบถาม นายสุรเดชบอกว่า ได้ขับรถมาจากบ้านเพื่อจะไปเยี่ยมพ่อที่ป่วยอยู่โรงพยาบาลนางรอง แต่พอถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งได้เกิดเสียหลักประคองรถไม่อยู่ จึงพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของตาเฉยที่ขับสวนมาเต็มแรง แล้วลากทั้งคนทั้งรถจักรยานยนต์ติดไปกับใต้ท้องรถด้วย จนเป็นเหตุให้ตาเฉยเสียชีวิตดังกล่าว ยอมรับว่าได้ดื่มเหล้ามาจริง และเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งระหว่างที่พูด นายสุรเดช น้ำตาคลอพร้อมยกมือไหว้ญาติของผู้เสียชีวิตด้วย
ขณะที่ นายสุนธรากร โนรีย์ อายุ 24 ปี ชาวบ้าน เล่าว่า ขณะขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนออกหน้าไปก่อนเล็กน้อย ได้ยินเสียงรถชนดังสนั่นจึงวนรถกลับไปดู พบรถยนต์ทับรถจักรยานยนต์และร่างคนขี่อยู่ใต้ท้องรถ จึงรีบประสานหน่วยกู้ภัยฯ และแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและช่วยเหลือ แต่พอหน่วยกู้ภัยฯ ใช้เครื่องตัดถ่างงัดนำคนขี่จักรยานยนต์ออกมาจากใต้ท้องรถก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว
หลังจากสอบปากคำเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์คนขับรถยนต์ พบว่าระดับแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ที่กฎหมายกำหนด จึงได้แจ้ง 2 ข้อหา “ขับรถด้วยความประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, เมาแล้วขับ”