ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - แชร์สนั่นคลิป “เกษตรตำบล” โคราชเมาแอ๋ขับเก๋งพุ่งข้ามเลนชนประสานงากระบะสาว ส.อบต.มากับหลานสาว 4 ขวบพังยับ สาหัส 2 ราย กร่างคับถนนอ้างเป็นเกษตรอำเภอด่าทอท้าทายชาวบ้านที่เข้าช่วยเหลือ ปัดไม่ได้ชน ตำรวจจับตรวจแอลกอฮอล์สูงลิ่ว 237 มิลลิกรัมฯ พร้อมแจ้งดำเนินคดี
วันนี้ (3 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีมีการแชร์คลิปภาพเหตุการณ์อุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนกับรถยนต์กระบะ บนถนนสายบ้านหนองยายเทียม-บ้านหนองตะไก้ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา โดยระบุว่ารถยนต์เก๋งสีขาวซึ่งมีผู้ขับขี่เป็นข้าราชการชาย สำนักงานเกษตรอำเภอหนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ได้ขับข้ามเลนพุ่งชนประสานงากับรถยนต์กระบะที่วิ่งสวนทางมา รถพังยับเยินทั้งคู่ ทำให้ผู้หญิง และเด็กหญิงอายุ 4 ขวบ รวม 2 คน ในรถยนต์กระบะได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยชายข้าราชการผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งมีอาการมึนเมา หลังก่อเหตุได้เอะอะโวยวาย ด่ากราดท้าทายชาวบ้านที่เข้ามาช่วยเหลือและดูเหตุการณ์ ปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้ขับรถชนไม่ยอมรับผิดชอบ พร้อมอ้างว่าเป็นเกษตรอำเภอ เกิดเหตุเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (2 ธ.ค.) โดยมีการแชร์คลิปในโซเชียลมีเดียและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากอยู่ในขณะนี้
ล่าสุดวันนี้ พ.ต.อ.สมชาย คมพยัคฆ์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.หนองบุญมาก เปิดเผยถึงอุบัติเหตุดังกล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่าผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งคู่กรณีคือ ว่าที่ ร.อ.สกุลชัย ขำประถม ทำงานตำแหน่งเกษตรตำบลหนองตะไก้ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบและนำตัวผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ พบมีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 237 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา “ขับขี่รถขณะมึนเมาสุรา และขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ” เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวน นางรวยริน พิมพ์ปรุ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) หนองตะไก้ อ.หนองบุญมาก ผู้ขับขี่รถยนต์กระบะและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ระบุว่า ขณะตนขับรถยนต์กระบะมาพร้อมกับหลานสาว คือ ด.ญ.กรองแก้ว อายุ 4 ขวบ ตามเส้นทางถนนสายบ้านหนองยายเทียม-บ้านหนองตะไก้ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่ห่างจากแยกบ้านหนองตะไก้ประมาณ 500-600 เมตร เห็นรถยนต์เก๋งของคู่กรณีขับส่ายไปส่ายมา ก่อนที่รถยนต์คันดังกล่าวจะขับข้ามเลนพุ่งเข้ามาชนประสานงากับรถกระบะของตนอย่างจัง ทำให้หลานสาวได้รับบาดเจ็บไหปลาร้าหัก ส่วนตนกรามหัก เข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ทั้งนี้ อยากให้คนขับรถยนต์เก๋งคู่กรณีมารับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น
