มุกดาหาร - ตามคาด ต่างด้าวพร้อมลอบเข้าไทยทุกด้าน ล่าสุดชาวลาวเข้าเมืองผิดกฎหมายอีก 7 คน พรรคพวกจะตามมาอีก 6 โชคดี นรข.นครพนมสกัดได้ทัน สารภาพต้องจ่ายค่าหัวให้แก๊งนายหน้าที่มีทั้งคนลาวและไทย 4,700 บาทต่อคน ปลายทางหางานทำในกรุงเทพฯ ด้านนรข.เผยต้องเข้มงวดตรวจจับมากขึ้นเพราะป้องกันเชื้อโควิดระบาดในไทย
ชาวไทยต้องกินอยู่อย่างหวาดผวาอีกครั้ง หลังมีกลุ่มสาวไทยเห็นแก่ตัวไร้จิตสำนึกรับผิดชอบลอบข้ามพรมแดนจากฝั่งท่าขี้เหล็ก พม่าเข้ามาไทย เพียงเพราะไม่อยากถูกกักตัวหากผ่านด่าน ตม.แม่สาย หนำซ้ำยังตะลอนกินดื่ม นั่งรถนั่งเครื่องข้ามจังหวัด สุดท้ายตรวจพบติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำเอาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนและคนทั้งประเทศพลอยเดือดร้อนไปหมด ด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกด้าน โดยเฉพาะภาคเหนือและอีสานต้องเข้มงวดคัดกรอง ป้องกันกลุ่มคนลอบเข้าเมืองมากขึ้นเท่าตัว
ล่าสุดช่วงค่ำวานนี้ (2 ธ.ค.) นาวาโท สิทธิ์ศักดิ์ สิทธิกุล หัวหน้าสถานีเรือ (นรข.) มุกดาหาร นำกำลังเจ้าหน้าที่ นรข. พร้อมประสาน พ.ต.ท.ธีระวัฒน์ ทิพย์ธนาวิวัฒ รอง ผกก. ตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร ตชด.234 และทหารพราน ลงพื้นที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านนาสีนวน ต.นาสีนวน อ.เมืองมุกดาหาร ภายหลังได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีต่างด้าวชาวลาวลอบขึ้นฝั่งไทยแถวนี้หลายคน
กระทั่งมีเรือกีบเพลายาวจาก สปป.ลาว แล่นเข้ามาจอดที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านส้มป่อย มีผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ทยอยลงจากเรือแล้วรีบเดินขึ้นมาจากริมฝั่งแม่น้ำโขง ส่วนเรือกีบหางยาวลำดังกล่าวได้หันหัวเรือเร่งเครื่องแล่นมุ่งหน้าข้ามกลับไปยังฝั่งลาว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าแสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบกลุ่มคนทั้งหมด พบเป็นชาวลาวทั้งหมดจำนวน 7 คน ตรวจสอบไม่พบเอกสารใดๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวต่างด้าวทั้งหมดมาที่สถานีเรือมุกดาหาร และได้ทำประวัติทั้งหมด ทราบชื่อคือ 1. ท้าวพรชัย แก้วลำพร อายุ 21 ปี บ้านป่าหนาม เมืองอุทุมพร แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว 2. ท้าวบุญเอื้อ ศุภสัย อายุ 25 ปี บ้านป่าหนม เมืองอุทุมพร แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว 3. ท้าวดวง ศรีสุข อายุ 20 ปี บ้านผักขะส้มป่อย นครไกรสอนพมวิหาร แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว 4. นางสาวพิสมัย ราชสุรินทร์ อายุ 24 ปี บ้านเซโน เมืองอุทุมพร แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว 5. นางน้อย (ไม่มีนามสกุล ) อายุ 20 ปี บ้านพลาญชัย เมืองพลาญ แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว 6. นางปู (ไม่มีนามสกุล) อายุ 40 ปี บ้านพลาญชัย เมืองพลาญ แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว และ 7. นางบัวผัน (ไม่มีนามสกุล) อายุ 25 ปี บ้านป่าหนาม เมืองอุทุมพร แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว
จากการสอบถาม นางปูบอกว่า พวกตนได้จ่ายค่าหัวให้นายหน้าคนลาวที่ร่วมกับคนไทย จำนวน 4,700 บาท จากต้นทาง สปป.ลาว จนถึงปลายทางกรุงเทพมหานคร ต่อคน โดยตนจะไปทำงานที่พัทยาเพราะมีแฟนอยู่ที่นั่น ตนพร้อมเพื่อนที่ข้ามมาด้วยกันจำนวน 13 คน โดยเรือเที่ยวแรกมาด้วยกัน 7 คน และอีก 6 คนเรือกำลังจะไปรับที่ฝั่ง สปป.ลาว พอมาถึงฝั่งประเทศไทยจะมีรถตู้มารับที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน
นาวาเอก สุรศักดิ์ สุวรรณเกษา ผบ.นรข.เขตนครพนม ระบุว่า คนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในยามปกติมีกฎหมายต้องดำเนินการตามขั้นตอนอยู่แล้ว แต่ในภาวการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ฉะนั้นมาตรการสกัดกั้นตรวจจับจะต้องเข้มงวดมากขึ้น นอกจากผิดกฎหมายเพราะเข้าเมืองโดยมิชอบแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 อีกด้วย
ดังนั้น นรข.จะเพิ่มความเข้มงวดกวดขันไม่ให้ผ่านโดยเด็ดขาด เพราะปัจจุบันต้องผ่านขั้นตอน การจะเข้ามาในประเทศไทยได้ต้องกักตัวก่อน ต้องแน่ใจแล้วไม่ใช่ผู้ป่วย ดังนั้น การควบคุมหรือการจับกุมต้องเคร่งครัด โดยเฉพาะชาวลาวไม่มีโทษมากมายนัก แค่ผลักดันกลับไป ถ้าเป็นคนไทยมีการนำพาต่างด้าวเข้ามาจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งจำทั้งปรับ
ด้านนาวาโท สิทธิ์ศักดิ์ สิทธิกุล หัวหน้าสถานีเรือมุกดาหาร เล่าว่า สถานีเรือมุกดาหารได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายบริเวณบ้านนาสีนวน จึงได้นำกำลังไปบริเวณดังกล่าว จนกระทั่งเวลา 14.00 น. พบเรือกีบเพลายาวแล่นเข้ามาบริเวณฝั่ง ทางเราพร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเข้าควบคุมตัว ตรวจสอบเป็นชาวลาว 8 คน เป็นชาย 3 เป็นหญิง 5 คน และกำลังจะมีรถตู้มารับเพื่อจะมุ่งหน้าไปพื้นที่ตอนใน จากการสอบถามจะเข้าไปกรุงเทพมหานครเป็นส่วนใหญ่
ขณะที่ ว่าที่ พ.ต.ต.วรกานต์ สาระปัญญา สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติมีความยาก และก็จำกัดประเภทของการเข้า จะเข้ามาทำงาน หรือเข้ามาท่องเที่ยวค่อนข้างที่จะลำบาก ทำให้มีผู้ลักลอบเข้าเมืองมากขึ้น สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหารมีนโยบายเข้มงวดกวดขันในการเฝ้าระวังตามแนวชายแดน