เชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เชียงใหม่นำแถลงกรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 อีก 2 ราย เป็นสาวอายุ 23 ปี และ 25 ปี ลอบข้ามแดนไปทำงานประเทศเพื่อนบ้านแล้วกลับเข้ามาตรวจพบเชื้อ เปิดไทม์ไลน์ละเอียด เจอผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 3 คน เสี่ยงต่ำ 2 คน เก็บตัวอย่างได้แล้ว 4 คนรอผลตรวจ
วันนี้ (2 ธ.ค. 2563) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายแพทย์ จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และ นพ.วรเชษฐ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม 2 ราย ซึ่งถือเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 43, 44 ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นหญิงไทยอายุ 23 ปี และ 25 ปี มีประวัติลักลอบข้ามแดนกลับเข้ามาในประเทศไทย และเป็นผู้สัมผัสกับผู้ป่วยโควิด-19 รายล่าสุดของจังหวัดพะเยา
จากการลงพื้นที่ของทีมสอบสวนโรคเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสำนักควบคุมโรคที่ 1 ผู้ป่วยทั้งสองรายนี้ได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศพม่า และเดินทางกลับจากประเทศพม่า จากนั้นในวันที่ 30 พ.ย. 63 ได้เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้พักอาศัยอยู่ในที่พักส่วนตัวกับญาติ จนกระทั่งมีเพื่อนจากจังหวัดพะเยาเข้ามาหาที่บ้านพัก ต่อมาเพื่อนคนดังกล่าวได้เดินทางเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ ผลตรวจยืนยันพบเชื้อโควิด-19 จึงแจ้งให้เข้ารับการตรวจ และพบว่าผลตรวจยืนยันพบเชื้อโควิด-19
สำหรับไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายที่ 43 และ 44 นั้น วันที่ 27 พ.ย. 63 เวลา 15.00-17.00 น. เดินทางเข้าประเทศทางพรมแดนธรรมชาติ 3 ราย โดยการเดินเท้า แล้วต่อรถจักรยานยนต์ นอนค้างบ้านเพื่อนที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จากนั้นวันที่ 28 พ.ย. 63 อยู่บ้านเพื่อน อ.แม่สาย จ.เชียงราย และวันที่ 29 พ.ย. 63 นั่งรถยนต์เก๋งรับจ้างไปในตัวเมืองเชียงราย นอนบ้านเพื่อนที่ อ.เมือง จ.เชียงราย ใกล้ๆ Big C
ต่อมาวันที่ 30 พ.ย. 63 เวลา 11.00-16.30 น. เหมารถจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย เดินทางมาพร้อมกันทั้ง 3 คน รถมาส่งที่บ้านพักของผู้ป่วยรายที่ 43 กับเพื่อนที่มาด้วยกันอีกคน และรายที่ 44 พักหอพักย่านสันติธรรม ทั้งนี้อ้างว่าระหว่างเดินทางไม่ได้แวะที่ใด และในวันเดียวกันนี้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 จาก จ.พะเยา ได้มาหาที่บ้านพักและหอพักย่านสันติธรรมในช่วงค่ำหลังจากไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่
กระทั่งวันที่ 1 ธ.ค. 63 เวลา 12.00 น. ไปฟังผลให้เพื่อนที่โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจากการสัมภาษณ์ประวัติเพิ่มเติมพบว่ามีประวัติเสี่ยงเดินทางมาจากพื้นที่ระบาดเช่นกัน จึงได้ติดตามเพื่อนอีก 2 คนมาตรวจด้วยกันทั้งหมดและเวลา 18.00 น. ผลตรวจของรายที่ 43 และ 44 ผลตรวจยืนยันพบเชื้อโควิด-19 และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ส่วน น.ส.เอ (นามสมมติ) เพื่อนอีกคนผลเป็นลบ ขณะนี้กักตัวอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐกำหนด
ส่วนการติดตามผู้สัมผัสกับผู้ป่วยทั้งสองรายนี้ พบผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงจำนวน 3 ราย และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำจำนวน 2 ราย ซึ่งขณะนี้ได้เก็บสิ่งส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้วรอผลจำนวน 4 ราย ส่วนอีก 1 รายรอเก็บสิ่งส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 และทางทีมสอบสวนโรคยังคงดำเนินการติดตามค้นหากลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยทั้งสองรายนี้ต่อไป
ทั้งนี้ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ขอเน้นย้ำให้ประชาชนที่เดินทางไปร่วมกิจกรรมดนตรีที่สิงห์ปาร์ค จังหวัดเชียงราย ในวันที่ 29 พ.ย. 63 ให้กักสังเกตอาการตัวเองจนครบ 14 วันหลังสัมผัส (พ้นระยะกักตัว 14 ธ.ค. 2563) หากมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ให้รีบไปรับการตรวจที่โรงพยาบาลได้ทุกแห่ง พร้อมบอกอาการเสี่ยงสัมผัส รวมถึงสามารถประเมินตนเองได้จากแอปพลิเคชันแบบคัดกรองตนเองสำหรับผู้สงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019