xs
xsm
sm
md
lg

โวย รง.ยางพาราปล่อยน้ำเสียหน่วยงานรัฐไม่ขยับแก้ พระป่าสุดทนอาจย้ายวัดหนี

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


โรงงานยางพาราของสหกรณ์การเกษตรเบญจลักษ์
ศรีสะเกษ - ชาวบ้านเบญจลักษ์โวยโรงงานยางพาราของสหกรณ์การเกษตรเบญจลักษ์ปล่อยน้ำเสียเป็นสีดำลงไปในไร่นาและสวนยางพาราของชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับโรงงาน ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ร้องหลายหน่วยงานเรื่องเงียบเหมือนเป่าสาก ด้านพระป่าสุดทนเตรียมย้ายวัดหนี ขณะที่แกนนำชาวบ้านขอให้หยุดโรงงานเพื่อปรับปรุงแก้ไข

พระอาจารย์สุริยันต์ กมโล เจ้าอาวาสวัดป่าโนนใหญ่ (ธ.)
จากกรณี นายวรวิทย์ การุณ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 229/7 หมู่ 11 ต.เสียว อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้นำตัวแทนของชาวบ้านในเขต ต.เสียว อ.เบญจลักษ์ และตำบลใกล้เคียง ประกอบด้วย นายสมัย ทำนุ อายุ 66 ปี นายภาด โพธิ์ทอง และนายไชยา บุญบุตร ผช.ผญบ.หมู่ 11 ต.เสียว นางสุพรรณ พละศักดิ์ อายุ 38 ปี และคณะ เข้าร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชนว่า โรงงานยางพาราของสหกรณ์การเกษตรเบญจลักษ์ ได้ปล่อยน้ำเสียเป็นสีดำลงไปในไร่นาและสวนยางพาราของชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับโรงงาน

อีกทั้งน้ำที่เน่าเสียได้ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปเป็นบริเวณกว้าง ทำให้สวนยางพาราของชาวบ้านได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทำให้น้ำยางออกน้อย กลิ่นน้ำเสียทำให้ชาวบ้านแสบตาแสบจมูกมาก มีชาวบ้านจำนวน 3 หมู่บ้าน 1 วัด 2 โรงเรียน

ประกอบด้วย บ้านเสียว บ้านโนนใหญ่ บ้านไร่เจริญ วัดป่าโนนใหญ่ โรงเรียนอนุบาลเบญจมิตร นักเรียนประมาณ 500 คน โรงเรียนเบญจลักษ์พิทยา นักเรียนประมาณ 2,000 คน ร้านอาหารและกาแฟ NATURE ที่อยู่ใกล้กับโรงงานยางพาราของสหกรณ์การเกษตรเบญจลักษ์ ได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็นมากไม่สามารถที่จะดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข ชาวบ้านได้เคยร้องเรียนไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องหลายครั้งแล้วแต่เรื่องเงียบหายไป ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุดวันนี้ (30 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดป่าโนนใหญ่ (ธ.) ต.เสียว อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายวรวิทย์ การุณ อายุ 58 ปี พร้อมด้วย นายภาด โพธิ์ทอง และนายไชยา บุญบุตร ผช.ผญบ.หมู่ 11 ต.เสียว ไปเข้ากราบนมัสการพระอาจารย์สุริยันต์ กมโล เจ้าอาวาสวัดป่าโนนใหญ่ เพื่อสอบถามผลกระทบจากกลิ่นเหม็นของโรงงานยางพาราของสหกรณ์การเกษตรเบญจลักษ์ เนื่องจากว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดป่ามีพระสงฆ์จำวัดอยู่จำนวน 5 รูป อยู่ใกล้กับโรงงานยางพารา

ซึ่งพบว่าภายในบริเวณวัดมีการทำความสะอาดและจัดบริเวณภายในวัดอย่างสวยงามเหมาะสำหรับการประกอบกิจของสงฆ์และเหมาะสำหรับการมาปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างมาก โดยมีพุทธศาสนิกชนพากันมาปฏิบัติธรรมที่วัดกันอย่างคึกคักทุกวัน


พระอาจารย์สุริยันต์ กมโล เจ้าอาวาสวัดป่าโนนใหญ่ (ธ.) เล่าว่า วัดแห่งนี้ได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็นของโรงงานยางพารามานานประมาณ 4-5 ปีแล้ว โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนกลิ่นเน่าเหม็นจะรุนแรงมาก โดยกลิ่นเหม็นจะมีทุกวันจะเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 13.00 น.เป็นต้นไปจนถึงช่วงเย็นทุกวัน พอสภาพอากาศเปลี่ยนไปหรือว่ามีลมพัดมากลิ่นเหม็นก็จะลอยไปทางอื่น ทำให้พระสงฆ์และญาติโยมที่มาปฏิบัติธรรมได้รับความเดือดร้อนมาก เวลาสวดมนต์แล้วมีกลิ่นเหม็นลอยมาต้องใช้ผ้ามาปิดจมูก ทำให้ไม่สะดวกต่อการสวดมนต์ไหว้พระ

หากมีกลิ่นเหม็นแบบนี้ตลอดไปพระสงฆ์คงจะต้องพากันย้ายวัด เพราะว่ากลิ่นเหม็นอาจจะทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพของพระสงฆ์และญาติโยมที่มาปฏิบัติธรรมที่วัดได้


นายวรวิทย์ การุณ อายุ 58 ปี บอกว่า การที่พวกตนออกมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชนครั้งนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้พากันร้องทุกข์ไปยังหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องหลายส่วนราชการแล้ว แต่ว่าเรื่องเงียบ ไม่มีการแก้ไขปัญหาช่วยเหลือชาวบ้านแต่อย่างใด ตนเห็นว่าเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนไม่ให้ปัญหาลุกลามใหญ่โตไปมากกว่านี้ จำเป็นต้องร้องเรียนให้สื่อมวลชนช่วยเหลือ

เนื่องจาก นายคำฟอง ลุนศรี ประธานสหกรณ์การเกษตรเบญจลักษ์ บอกกับพวกตนว่า เตรียมทำบ่อบำบัดน้ำเสียแต่ยังไม่มีเงินในการก่อสร้าง

พวกตนจึงเห็นว่าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องควรที่จะสั่งให้ปิดโรงงานยางพาราของสหกรณ์การเกษตรเบญจลักษ์ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อให้โรงงานทำการแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้นโดยด่วน จากนั้นเมื่อมีการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียและกลิ่นเหม็นเรียบร้อยแล้วจึงเห็นควรอนุญาตให้เปิดโรงงานยางพาราต่อไปได้


กำลังโหลดความคิดเห็น