อุบลราชธานี - สุดทน! ลูกค้าเมืองดอกบัวเจอแม่ค้าหน้าเลือด อ้างจ่ายโครงการคนละครึ่งก็ต้องช่วยจ่ายค่าอินเทอร์เน็ตด้วย ขอบวกเพิ่มค่าอาหารจากราคาหน้าป้ายเมนูละ 10 บาท จึงเอาเรื่องมาแฉไม่ต้องการเงิน 5 บาทคืน แต่ไม่อยากให้ผู้บริโภคยอมแม่ค้าแบบนี้
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปการสนทนากับแม่ค้าร้านขายอาหารอีสานริมถนนคนเดินเทศบาลนครอุบลราชธานี ซึ่งจัดขายสินค้าช่วงเย็นวันเสาร์และอาทิตย์รอบสวนสาธารณะทุ่งศรีเมือง ต.ในเมือง โดยระบุข้อความว่า… เรื่องมีอยู่ว่า ร้านนี้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ซึ่งทางเราสั่งจุ๊เนื้อ ราคาป้าย 100 บาท สแกนจ่ายคนละครึ่งก็ 50 บาท แต่แม่ค้ากดตั้งราคาในเครื่อง 110 บาท จึงต้องจ่ายเกินไป 5 บาท จึงขอเงินคืนแล้วจ่ายเป็นเงินสดแทน เมื่อถามแม่ค้าทำไมคนละครึ่งต้องบวกเพิ่ม 10 บาท
แม่ค้าตอบกลับมาว่า "แม่ค้าต้องจ่ายค่าเน็ตเดือนละ 400 บาท” ซึ่งเราก็บอกว่าก็ต้องจ่ายค่าเน็ตเหมือนกัน ที่สำคัญแม่ค้าไม่ได้ติดป้ายบอกด้วยว่า "หากใช้โครงการคนละครึ่ง ต้องบวกเพิ่มเมนูละ 10 บาท"
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนางสาวอรนภา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.24 น. วันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนกับเพื่อนอีก 4 คนไปซื้ออาหารอีสานคือจุ๊เนื้อ ซึ่งเป็นเนื้อสดหั่นเป็นชิ้นๆ พอคำ จิ้มกับน้ำจิ้ม ในร้านค้าที่ถนนคนเดินเทศบาลนครอุบลราชธานี ซึ่งจัดรอบสวนสาธารณะทุ่งศรีเมือง โดยร้านดังกล่าวตั้งอยู่ฝั่งโรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี ทางร้านติดราคาค่าอาหารคือ 100 บาท
หลังสั่งอาหารแล้วก็จะจ่ายค่าอาหารตามโครงการคนละครึ่งในราคา 100 บาท ตามราคาที่ติดไว้ที่ป้ายหน้าร้าน แต่เมื่อแม่ค้านำโทรศัพท์มาให้สแกนจ่ายเงินกลับเรียกเก็บเป็นเงิน 110 บาท ซึ่งเกินจากราคาป้ายที่แสดงไว้ น.ส.อรนภาและเพื่อนจึงเข้าไปสอบถามแม่ค้าที่ขายอาหาร ก็ได้คำตอบว่า หากลูกค้าจ่ายในโครงการคนละครึ่งต้องบวกเพิ่ม 10 บาท เนื่องจากแม่ค้าต้องจ่ายค่าเน็ตเดือนละ 400 บาท
“จึงต่อรองขอเงินในโครงการคืนแล้ว โดยขอจ่ายให้เป็นเงินสดตามราคาป้ายที่แสดงไว้แทนเพราะไม่อยากถูกเอาเปรียบ แต่แม่ค้าไม่ยอมบอกว่ามีค่าเท่ากัน ทำให้พวกตนเสียความรู้สึกกับพฤติกรรมของแม่ค้ารายนี้อย่างมาก”
นางสาวอรนภาผู้เสียหายรายนี้ยังบอกอีกว่า สำหรับเรื่องเงิน 10 บาทไม่ติดใจ แต่คิดว่าไม่ยุติธรรม เพราะลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคก็ต้องใช้อินเทอร์เน็ตเช่นกัน ทำไมต้องมาบวกเพิ่มและราคาป้ายหน้าร้านก็ไม่มีระบุไว้ว่าหากใช้โครงการคนละครึ่งจ่ายค่าสินค้าจะต้องถูกบวกเพิ่ม
รวมทั้งที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ไม่ได้ต้องการเงิน 5 บาทคืน แต่ต้องการเตือนให้ผู้บริโภคทุกคนอย่ายอมกับเรื่องแบบนี้
