xs
xsm
sm
md
lg

นำแม่ค้าจ่ายคนละครึ่งคิดค่าเน็ตเพิ่มปรับ 1,000 บอกหลังเกิดเรื่องนอนไม่หลับทั้งคืน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุบลราชธานี - เจ้าหน้าที่พาณิชย์และคลังจังหวัดอุบลราชธานี นำแม่ค้าขายจุ๊เรียกเก็บค่าอินเทอร์เน็ตสแกนจ่ายคนละครึ่งให้ตำรวจเปรียบเทียบปรับ 1,000 บาท ฐานฝ่าฝืนเรียกเก็บค่าสินค้าเกินราคา และถอนออกจากโครงการ

จากกรณีลูกค้าเป็นนักศึกษาเมืองนักปราชญ์ เจอแม่ค้าหน้าเลือดขายจุ๊เนื้อซอยบนถนนคนเดินหน้าโรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี เทศบาลนครอุบลราชธานี เมนูละ 100 บาท แต่ถ้าจ่ายโครงการคนละครึ่งก็ต้องช่วยจ่ายค่าอินเทอร์เน็ตด้วย 10 บาท ซึ่งแม่ค้าระบุว่าเป็นความเข้าใจผิดของตนและขอโทษตามที่เสนอข่าวไปนั้น


ความคืบหน้าที่สถานีตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี นายชาญยุทธ วันดี พาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี และ น.ส.ปานจิตต์ ตะเพียนทอง คลังจังหวัด นำตัวนางเยาวะเรศ รัตนพร อายุ 46 ปี แม่ค้าขายจุ๊เนื้อที่เรียกเก็บค่าอินเทอร์เน็ตเพิ่มเติมจากค่าจุ๊เนื้อหั่นที่ตั้งราคาขายไว้ 100 บาท เป็น 110 บาท กรณีขอใช้โครงการจ่ายคนละครึ่ง เพราะต้องเสียเงินค่าอินเทอร์เน็ต มาให้ พ.ต.ท.เสด็จ แก้วสิงห์ทอง สารวัตรเวรสอบสวนทำการเปรียบเทียบปรับ ฐานฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฉบับที่ 71 พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 1 ก.ค. 2563 ข้อ 9 กรณีเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งผู้จำหน่ายจะต้องแสดงค่าใช้จ่ายให้ชัดเจนและครบถ้วนตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ซึ่งมีอัตราโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท

แต่กรณีของนางเยาวะเรศเป็นหาบเร่แผงลอย จึงเสนอปรับเพียง 1,000 บาท ซึ่งนางเยาวะเรศ แม่ค้าก็ยินยอมให้เปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย พร้อมได้กล่าวขอโทษต่อกรณีที่เกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะหลังเกิดเรื่องทำให้นางเยาวะเรศเกิดความเครียดและนอนไม่หลับตลอดทั้งคืนด้วย


นายชาญยุทธ วันดี พาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี ยังกล่าวเตือนไปถึงร้านค้า แม้ไม่ได้เข้าร่วมโครงการใดๆ กับทางรัฐ อย่างไรก็ต้องติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน และต้องขายให้ตรงกับราคาตามป้ายที่แสดงไว้ ไม่ว่าจะเป็นการลดราคาก็ต้องมีการแจ้งชัดเจน และสินค้าต้องมีน้ำหนักหรือจำนวนที่มีการระบุไว้ หากไม่ครบถ้วนก็มีความผิดเช่นกัน

ขณะที่ น.ส.ปานจิตต์ ตะเพียนทอง คลังจังหวัดกล่าวถึงการเสนอถอดรายชื่อนางเยาวะเรศ ออกจากการร่วมโครงการจ่ายคนละครึ่ง ซึ่งเจ้าตัวก็ยินยอมออกจากโครงการก็จะได้ส่งเรื่องให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เพื่อทำการเพิกถอนสิทธิออกจากโครงการนี้ พร้อมเตือนพ่อค้าแม่ค้ารายอื่นซึ่งมีข่าวออกมาไม่ได้ขายสินค้า แต่ให้มาแลกเป็นเงินสดอย่าได้ทำ เพราะโครงการนี้รัฐบาลต้องการช่วยเหลือเรื่องค่าครองชีพประชาชน ช่วยเหลือผู้ค้าระดับเล็กๆ ให้มีรายได้ และขายของได้มากๆ ส่วนที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มร้านค้าก็ควรต้องรับผิดชอบเองอย่าได้ทำผิดเป็นอันขาด


กำลังโหลดความคิดเห็น