กาฬสินธุ์ - ชาวนาที่ อ.ยางตลาดแห่นำข้าวเปลือกไปตากแดดตามลานภายในบริเวณสถานีตำรวจ ทดแทนการตากตามถนนหลวงที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือนำไปตากในสถานที่ต่างๆ ซึ่งอาจจะถูกโจรลักขโมยไปขาย หลังราคารับซื้อข้าวเปลือกมีการปรับราคาขึ้นสูงเกือบตันละ 10,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการตากข้าวเปลือกนาปีของชาวนาใน จ.กาฬสินธุ์ หลังจ้างรถเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว พบว่าในกลุ่มที่ไม่ได้นำไปขายสด ซึ่งได้ผลผลิตข้าวเป็นจำนวนมาก ไม่มีพื้นที่ตาก ต่างนำไปผึ่งตากตามพื้นที่ว่างภายในสถานที่ราชการ เช่น วัด โรงเรียน และสถานีตำรวจ
ทั้งนี้ ต่างให้เหตุผลว่าปลอดภัย ไม่ต้องเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือโจรลักขโมย หากนำไปตากตามถนนหลวงและที่อื่นๆ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางโซเชียลว่ามีการเกิดอุบัติเหตุและข้าวเปลือกถูกขโมยดังกล่าว
นายอาทิตย์ พูนลาภ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 8 บ้านนากุง ต.เขาพระนอน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ บอกว่า หลังจากจ้างรถเกี่ยวสดแล้วตนและเพื่อนชาวนาได้นำข้าวมาตากที่ลานหน้าสถานีตำรวจภูธรนากุง ซึ่งมีพื้นที่ว่างขว้างขวาง สะดวกและปลอดภัยกว่านำไปตากตามถนนหลวง หรือที่อื่นๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ถูกรถเฉี่ยวชน และอาจจะถูกโจรลักขโมยได้
เนื่องจากช่วงนี้ราคารับซื้อข้าวเปลือกเจ้าและข้าวเปลือกเหนียวตามแหล่งรับซื้อทั่วไปมีการปรับตัวสูงขึ้นแล้ว หลังจากชาวนาชะลอการขายและผึ่งแดดให้แห้ง โดยมีราคา กก.ละเกือบ 10 บาทหรือตันละ 10,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ชาวนาใน จ.กาฬสินธุ์หลายรายยังระบุว่า ผลดีของการนำข้าวมาตากในบริเวณสถานีตำรวจ นอกจากจะปลอดภัยจากการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังป้องกันเหตุคนร้ายเข้ามาลักขโมยได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งทุกปีที่ผ่านมาทั้งในฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังหรือข้าวฤดูแล้งและข้าวเปลือกนาปีจะมีคดีลักขโมยข้าวหลายครั้ง
ขณะที่ปีนี้ยังไม่มีเหตุข้าวเปลือกถูกลักขโมย คงจะเป็นเพราะราคาข้าวเปลือกตกต่ำ และมีการนำไปตากภายในสถานีตำรวจ ซึ่งคนร้ายไม่กล้าเข้าไปลักขโมย ทั้งนี้ ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อำนวยความสะดวกและอนุญาตให้ชาวนานำข้าวเปลือกเข้ามาตากดังกล่าว