เชียงใหม่ - เชียงใหม่สั่งตั้งด่าน 2 อำเภอ ดอยสะเก็ด และแม่อาย คัดกรองกลุ่มเสี่ยงเข้าเมือง หลังเคสสาวผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 42 พร้อมเร่งตามตัวผู้สัมผัสให้ครบ 306 คน เบื้องต้นเสี่ยงสูง 85 คน ผลออกยืนยันแล้ว 82 คนไม่พบเชื้อ เหลือติดตามอีก 3
วันนี้ (29 พ.ย. 63) นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 66/2563 โดยมี นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์ จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยคณะกรรมการร่วมประชุม ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีวาระสำคัญคือการติดตามความคืบหน้าการติดตามและควบคุมโรคโควิด-19 กรณีหญิงไทยจากประเทศพม่าตรวจพบว่าติดโควิด-19 เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ หลังการประชุม นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า กรณีความคืบหน้ากรณีผู้ป่วย COVID-19 คนที่ 42 ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นหญิง อายุ 29 ปี โดยทางจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการยกระดับมาตรการการป้องกันโรคให้มีความเข้มข้นมากขึ้น เน้นย้ำให้สถานบริการ ร้านขาย ห้างสรรพสินค้า โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว ตลาด รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ให้เข้มงวดในมาตรการการป้องกันโรค ทั้งการคัดกรอกไข้ การล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัย 100% การลงทะเบียนด้วยแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” การเว้นระยะห่าง (Social distancing) การจำกัดจำนวนผู้เข้ารับบริการ ซึ่งในขณะนี้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น ไม่มีไข้ ไม่มีหอบเหนื่อย จมูกเริ่มได้กลิ่น แต่มีความเครียดอยู่ในระดับสูง ยังคงอยู่ในความดูแลของแพทย์ที่โรงพยาบาลนครพิงค์อย่างใกล้ชิด
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับพี่น้องประชาชนขอให้ท่านได้คลายความกังวลใจทั้งที่อยู่อาศัย ทั้งที่มาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะสถานที่ที่ผู้ป่วยให้ข้อมูลเจ้าของสถานที่ต่างๆ ได้มีการทำความสะอาด ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทั้งหมดแล้วในทุกจุดที่สัมผัส ช่วงต่อไปก็จะมีการตรวจสอบโดย ศปก.พื้นที่ และ ศปก.จังหวัดอย่างเข้มข้น โดยจะตรวจสอบถึงการปฏิบัติว่ามีการละเลยในการคัดกรองโรค มีการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคหรือไม่ หากละเลยไม่ปฏิบัติก็จะถูกสั่งให้งดใช้สถานที่ ก็จะใช้อำนาจตามกฎหมายโดยเคร่งครัด นอกจากนี้ คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อได้เชิญผู้ประกอบการหลายแห่งมาทำบันทึกข้อตกลงและทำความเข้าใจในเรื่องของการปฏิบัติให้ชัดเจนเข้มข้นมากยิ่งขึ้น รวมถึงการประชุมวันนี้ได้มีมติให้อำเภอดอยสะเก็ดและอำเภอแม่อายตั้งด่านตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 เพื่อตรวจสอบผู้ที่จะเดินทางผ่านเข้าจังหวัดเชียงใหม่
ด้าน นพ.กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าของทีมสอบสวนโรคและค้นหาผู้สัมผัส พบผู้สัมผัสทั้งหมดจำนวน 306 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำจำนวน 149 ราย และผู้สัมผัสอื่นๆ จำนวน 72 ราย ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้วจำนวน 88 ราย ผลตรวจเป็นลบทั้งหมด สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงจำนวน 85 ราย ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ยืนยันไม่พบเชื้อ จำนวน 82 ราย แต่ยังคงต้องติดตามตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก 3 ราย คือ ผู้ที่โดยสารรถประจำทางบริษัทกรีนบัส เชียงราย-เชียงใหม่ ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 เวลา 11.00-15.00 น. จำนวน 2 ราย และคนขับรถ Grab Car รับจากดีคอนโด ไปส่งที่คิงส์เวย์ โฮสต์แอนด์คาราโอเกะ ในคืนวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ก็ขอให้ติดต่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ที่โทร. 08-4805-3131, 08-4805-2121
“ผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงที่ไม่มีอาการจะต้องกักตัวทุกคน หากไม่สามารถกักตัวที่บ้านได้ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดสถานที่กักกันผู้สัมผัสใกล้เสี่ยงสูงไว้แล้ว และมีผู้เข้ากักกันตนจำนวน 5 ราย ทั้งนี้ ผู้สัมผัสทุกรายจะต้องสังเกตอาการผิดปกติอย่างใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติจะถูกตรวจหาเชื้อซ้ำและแยกกักในโรงพยาบาล ผู้สัมผัสที่กักกันตนที่บ้านจะมีการประสานงานให้ทางโควิดหมู่บ้านเข้าไปดูแลและตรวจประเมินจนครบ 14 วันหลังสัมผัสผู้ป่วย” ผช.สสจ.เชียงใหม่กล่าว
นพ.กิตติพันธ์กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่ไปในสถานที่ดังกล่าว ขอให้ท่านกักกันตนเองจนกระทั่งครบ 14 วันหลังวันสัมผัส ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการ ให้โทร.นัดหมายเพื่อตรวจในวันที่ 1 ธ.ค. 2563 (ตามระยะฟักตัวเฉลี่ย) โดยหากพบอาการผิดปกติระหว่างการกักกันให้รีบพบแพทย์และแจ้งประวัติความเสี่ยงต่อบุคลากรทางการแพทย์เพื่อขอรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อทีมตระหนักรู้สถานการณ์ (SAT) สสจ.เชียงใหม่ โทร. 08-4805-3131, 08-4805-2121