พะเยา – “ผู้กองธรรมนัส-รมช.เกษตรฯ” ยันราคาข้าวหอมมะลิพะเยาไม่ได้ตกต่ำ บอกปีก่อนดึงเอกชนร่วม “พะเยาโมเดล” ดันราคาข้าวดิบได้กิโลฯละ 13.50 บาท แต่ปีนี้รัฐบาลประกัน ขายได้ถึง 13.63 บาท/กิโลฯ แถมเตรียมช่วยค่าเกี่ยวอีกไร่ละ 500 บาท
วันนี้(27 พ.ย.) ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ว่ากรณีปัญหาราคาข้าวที่ชาวนาระบุว่าตกต่ำนั้น เป็นการเข้าใจผิดและคลาดเคลื่อนในเรื่องข้อมูล
เนื่องจากในปีที่ผ่านมาตนได้นำโครงการพะเยาโมเดลมาดำเนินการ โดยดึงภาคเอกชนมารับซื้อข้าวจากเกษตรกร ซึ่งเกษตรกรสามารถจำหน่ายข้าวแห้งได้ตันละ 18,000 บาท หากเป็นข้าวดิบจะได้ราคาเฉลี่ยที่กิโลกรัมละ 13.50 บาท แต่ปีนี้ไม่ได้พึ่งบริษัทเอกชน แต่ต้องการให้ภาครัฐโดยองค์กรมหาชนหรือที่เรียกว่า อตก. เข้ามาเป็นพ่อค้าคนกลางแทรกแซงราคาข้าว
แต่ปรากฏว่า อตก.กู้เงินจาก ธ.ก.ส.ล่าช้า ไม่ทันฤดูกาลเก็บเกี่ยวในช่วงนี้ จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำมาตรการของรัฐมาช่วยเหลือเยียวยา ทั้งมาตรการการประกันราคาข้าว ข้าวหอมมะลิในปีนี้ และมาตรการปรับปรุงพัฒนาผลผลิตหรือมาตรการไร่ละ 500 บาท
ซึ่งจะทำให้ชาวนาขายข้าวดิบได้กิโลกรัมละประมาณ 13.63 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับรูปแบบพะเยาโมเดลแล้ว ราคาจะต่างกัน ไม่มาก และล่าสุดรัฐบาลกำลังหารือเรื่องการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวอีกไร่ละ 500 บาท ก็จะทำให้เกษตรกรชาวนาได้เพิ่มมาอีกบาทกว่าๆ
“สรุปแล้วข้าวดิบ จะขายได้ประมาณ 14-15 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ดีกว่าโครงการพะเยาโมเดลด้วยซ้ำ ดังนั้นโครงการพะเยาโมเดลเมื่อเทียบกับมาตรการที่ภาครัฐช่วยเหลือในขณะนี้แล้ว จะเห็นว่าภาครัฐช่วยเหลือได้ดีกว่า”
แต่ปัญหาพี่น้องเกษตรกรไม่เข้าใจว่าราคาข้าวในปีนี้ตกต่ำ อยู่ที่กิโลฯละ 9.50-10.50 บาท จึงเกิดเหตุสลดในพื้นที่อำเภอดอกคำใต้ เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมานี้ ซึ่งเป็นความเครียดของพี่น้องเกษตรกร เขาเข้าใจว่าเขาจะขายข้าวได้ในราคากิโลกรัมละประมาณ 9.50 - 10.50 บาท แต่ข้อเท็จจริงไม่ใช่อย่างนั้น เพราะหลังจากพี่น้องเกษตรกรขายข้าวได้เท่าไหร่แล้ว บวกลบไปประมาณ 3-5 วัน ทาง ธ.ก.ส.ก็จะโอนเงินส่วนต่างเข้าบัญชีให้ได้ครบจนถึง 13.69 บาท อันนี้คือสิ่งที่รัฐบาลเข้ามาดูแลตามมาตรการนี้ แต่ว่าการประชาสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดี จึงได้ให้เกษตรจังหวัดฯแจ้งผ่านไปยังเกษตรอำเภอ ให้แจ้งพี่น้องเกษตรกร ทั้ง 9 อำเภอของจังหวัดพะเยา ว่ารัฐบาลมีการช่วยเหลืออย่างนี้
ขณะที่เกษตรกรในพื้นที่ ต.ท่าวังทอง อ.เมืองพะเยา ระบุว่า เหตุสลดที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นเพราะชาวนามองว่าถูกกดราคารับซื้อข้าวมากเกินไป โดยเฉพาะพ่อค้ารับซื้อข้าวมักจะใช้ความรู้สึกในการตรวจวัดเรื่องความชื้นและสิ่งเจือปน เช่น เศษวัชพืชต่างๆ รวมทั้งความเต่งตึงของเมล็ดข้าวเป็นตัวกำหนดราคา ทำให้ราคาข้าวที่เกษตรกรได้รับนั้น ขึ้นอยู่กับผู้ตรวจ ยิ่งถ้ามีการใช้คำพูดที่ไม่ดี ก็มีโอกาสที่จะทำให้คนที่นำข้าวมาขายเกิดความรู้สึกโกรธแค้นจนเกิดเรื่องราวบานปลายได้เหมือนกัน