กาญจนบุรี - สลด! หลวงตาออกจากกุฏิไปรับบาตรที่ศาลาเพื่อไปบิณฑบาตแต่เช้าตรู่ เจอช้างป่าทำร้ายมรณภาพสุดสยอง
วันนี้ (24 พ.ย.) นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เวลา 07.50 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ที่ ทภ.6 (โป่งช้าง) ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุช้างป่าทำร้ายพระภิกษุสงฆ์มรณภาพอยู่บริเวณป่าบ้านเนินสวรรค์ ท้องที่หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ หลังรับแจ้งจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงนั้นจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ปิล๊อก แพทย์เวร ร.ทองผาภูมิ และกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์
ในที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ของสำนักสงฆ์ห้วยช้างจก ค่าพิกัด 47P 0441054E 1631194N เป็นพื้นที่นอกเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และอยู่ห่างจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติฯ ประมาณ 60 เมตร ตรวจพบพระภิกษุสงฆ์มรณภาพสภาพนอนคว่ำตะแคงขวา บริเวณกองหญ้าเสือหมอบ (สาบเสือ) ข้างทาง ห่างจากศาลาปฏิบัติธรรมของสำนักสงฆ์ ประมาณ 300 เมตร สภาพศพหน้ายุบ กะโหลกศีรษะด้านขวาเปิด มันสมองไหลกองเต็มพื้น ช่วงขาหักผิดรูป และพื้นหญ้าบริเวณจุดเกิดเหตุราบเรียบเป็นบริเวณกว้าง
จากการตรวจสอบเอกสารพบเป็นบัตรประจำตัวประชาชนระบุชื่อ พระสมบูรณ์ บุญวาส อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152 หมู่ 11 ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม และยังพบหนังสือสุทธิสำหรับพระภิกษุและสามเณร สังกัดวัดสุมังคลาราม อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร อุปสมบทมาแล้ว 9 พรรษา
นายเจริญ ใจชน เปิดเผยว่า จากการสอบถามพระสงฆ์และผู้ดูแลสำนักสงฆ์ทราบว่า พระสมบูรณ์ มาจำวัดเพื่อปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา และทุกวันพระสมบูรณ์ จะออกจากกุฏิสงฆ์ไปรับบาตรที่ศาลาปฏิบัติธรรม ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 800 เมตร เพื่อไปทำกิจของสงฆ์ในการบิณฑบาต
สำหรับช่วงเกิดเหตุคาดว่าน่าจะเป็นช่วงเวลาประมาณ 06.00 น.เศษ ระหว่างที่พระสมบูรณ์ เดินทางออกจากกุฏิเพื่อไปรับบาตรที่ศาลาปฏิบัติธรรมได้ประมาณ 500 เมตร และได้พบเจอกับช้างป่าไม่ทราบจำนวน และสุดท้ายช้างป่าได้ทำร้ายร่างกายของพระสมบูรณ์ บุญวาส อย่างรุนแรงเป็นเหตุทำให้มรณภาพในทันที หลังจากคณะแพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นแล้วเสร็จ จึงนำร่างของพระสมบูรณ์ ไปตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการมรณภาพที่แท้จริงที่โรงพยาบาลทองผาภูมิ อีกครั้งหนึ่งต่อไป
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ขอแจ้งประชาสัมพันธ์ไปถึงราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่โดยรอบอุทยานฯ ขอให้ระมัดระวังอันตรายจากช้างป่า โดยเฉพาะช่วงเวลารุ่งสางและพลบค่ำ จะต้องระวังเป็นกรณีพิเศษ