ศรีสะเกษ - เปิดภาพวินาทีชีวิต!พระวิ่งเข้าไปนั่งพนมมือให้ล้อเหล็กรถไฟทับร่างเละมรณภาพคาที่ ขณะเข้าเทียบจอดชานชาลาสถานีรถไฟศรีสะเกษ เผยเห็นพระเดินไปมาในบริเวณชานชาลาสถานีรถไฟ นานร่วม 2 ชม.ก่อนเกิดเหตุสยอง คาดเจตนาฆ่าตัวตาย
วันนี้ (24 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีรถไฟศรีสะเกษ อ.เมืองฯ จ.ศรีสะเกษ ได้เกิดหตุการณ์ขณะที่รถไฟเร็ว ขบวนที่ 146 ต้นทางจาก จ.อุบลราชธานี ปลายทางกรุงเทพฯ กำลังเคลื่อนเข้ามาเพื่อจะจอดเทียบชานชาลาสถานีรถไฟ ปรากฏว่าได้มีพระสงฆ์รูปหนึ่งทราบชื่อภายหลังคือ พระสมพงษ์ บุญธง อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121 หมู่ 2 ต.ห้วยติ๊กชู อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เป็นพระลูกวัดบ้านทำนบ ต.ห้วยตามอญ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้ลุกเดินออกจากที่นั่งพักผู้โดยสารแล้วรีบเดินไปยังบริเวณด้านหน้ารถไฟที่กำลังจะเข้าเทียบชานชาลา โดยพระได้ทิ้งย่ามลงไว้ข้างทางรถไฟ จากนั้นได้ลงไปนั่งขวางทางรถไฟ ชูมือขึ้นทั้งสองข้างแล้วนั่งลงพนมมือนอนลงให้รถไฟที่กำลังวิ่งเข้ามาทับร่างเละมรณภาพคาที่
ขณะที่นายธนชัย ทองลอง พนักงานคุมประแจซึ่งอยู่ใกล้เหตุการณ์ได้รีบวิ่งจะเข้าไปช่วย แต่ไม่สามารถจะช่วยได้ ทำให้พระสมพงษ์มรณภาพ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.29 น.ของวันนี้ (24 พ.ย.) ซึ่งนายเสริมศักดิ์ บุญรอง นายสถานีรถไฟศรีสะเกษ ได้แจ้งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ มาตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด.ญ.ปารมี สายเพชร อายุ 11 ขวบ ซึ่งมีบ้านเป็นร้านค้าอยู่ติดกับที่เกิดเหตุ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนได้ยินเสียงรถไฟเปิดหวูดเสียงดังจึงได้หันหน้าไปดูและพบว่าพระได้เดินลงไปให้รถไฟทับร่าง โดยก่อนหน้านี้เห็นพระรูปนี้เดินไปมาบริเวณชานชาลาสถานีรถไฟนานกว่า 2 ชั่วโมงแล้ว ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา
นายธนชัย ทองลอง พนักงานคุมประแจ ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ได้นำผู้สื่อข่าวไปดูที่เกิดเหตุ เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังปฏิบัติหน้าอยู่บริเวณเกิดเหตุ มีรถเร็วขบวนที่ 146 กำลังจะเข้าเทียบชานชาลาสถานี ได้มีพระลุกเดินออกมาจากที่นั่งเหมือนกับจะเดินไปขึ้นรถไฟ แต่พระได้ทิ้งย่ามลงกับพื้นแล้วเดินลงไปในรางรถไฟแล้วนั่งลงกางแขน จากนั้นพนมมือนั่งลงให้รถไฟทับร่างเสียชีวิต ตนไม่สมารถที่จะเข้าไปช่วยเหลือได้เนื่องจากหากลงไปในรางรถไฟก็จะต้องเสียชีวิตเช่นกัน เหตุการณ์ครั้งนี้คล้ายกับว่าเป็นการเจตนาฆ่าตัวตาย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับร่างของพระสมพงษ์ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถานได้นำไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรศพต่อไป ส่วนพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ จะได้ทำการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเหตุครั้งนี้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
