xs
xsm
sm
md
lg

จบไม่จบ! มหากาพย์ "วอเตอร์ฟรอนด์พัทยา" หลังยื้อเวลานานกว่า 10 ปี

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวศรีราชา - จบไม่จบ! มหากาพย์ "วอเตอร์ฟรอนด์พัทยา" หลังยื้อเวลานานกว่า 10 ปี ล่าสุด นายกเมืองพัทยาเชิญผู้รับเหมาเอกชนเข้าเสนอราคาและวิธีรื้อถอนหลังใบอนุญาตก่อสร้างหมดอายุ ซ้ำมีคำสั่งรื้อถอนตั้งแต่ปี 60 แต่เจ้าของยังเฉย

มีความเคลื่อนไหวอีกระลอกสำหรับโครงการ “วอร์เตอร์ฟรอนด์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนท์” มหากาพย์คอนโดมิเนียมสุดหรูตั้งตระหง่านริมอ่าวพัทยา ขนาดความสูง 53 ชั้น บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ 1 งาน 83 ตารางวา และมีจำนวนห้องพัก 312 ห้อง ที่ได้ดำเนินการก่อสร้างเมื่อปี 2551 บริเวณท่าเทียบเรือพัทยาใต้ แหลมบาลีฮาย จ.ชลบุรี โดยมีลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติแห่เช่าซื้อในสนนราคาตั้งแต่ 4-10 ล้านบาท

โดยทางโครงการมีสัญญาว่าจะทำการก่อสร้างให้แล้วเสร็จพร้อมส่งมอบห้องพักให้ผู้ซื้อได้ในเดือน ธ.ค.2558 แต่สุดท้ายในช่วงปลายปี 2551 นายอิทธิพล คุณปลื้ม (นายกเมืองพัทยาในสมัยนั้น) ได้มีคำสั่งให้ระงับการก่อสร้าง พร้อมระบุว่า ไม่สามารถออกใบอนุญาตก่อสร้างรอบที่ 3 ให้ได้เนื่องจากตรวจพบว่ามีการก่อสร้างผิดแบบตั้งแต่ฐานราก ตำแหน่งช่องลิฟต์ และบันไดหนีไฟ พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักการช่างเข้าตรวจสอบสภาพและตัวอาคารเพื่อให้แก้ไขรายละเอียดแบบแปลนรวม 42 จุด

ทำให้ในช่วงปลายปี 2559 เจ้าของโครงการฯ ต้องแจ้งต่อเมืองพัทยาว่า พร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อกำหนดตามกฎหมาย รวมทั้งการลดระดับความสูงของอาคารลง 8 ชั้น เพื่อลดผลกระทบต่อภาคประชาชน


แต่เมืองพัทยาก็ยังไม่ออกใบอนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้าง พร้อมมอบหมายให้นิติกรเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อบริษัท บาลีฮาย จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการใน 2 ข้อหาคือ 1.ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น และ 2.บุกรุกพื้นที่สาธารณะ

จนทำให้กลุ่มผู้ซื้อห้องพักรวมตัวเพื่อเรียกร้องสิทธิ และความเสียหาย ทำให้โครงการต้องยื่นเรื่องต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อขอฟื้นฟูกิจการหลังต้องแบกภาระหนี้กว่า 2.39 พันล้านบาทในปี 2561 แต่ศาลไม่รับคำร้อง

นอกจากนั้น ในปี 2561 ยังมีข่าวครึกโครมเกี่ยวกับคำตัดสินของศาลฎีกาที่พิพากษาว่าการออกโฉนดที่ดินของกลุ่ม “อาชาแลนด์” ซึ่งมีที่ดินติดกับโครงการ “วอร์เตอร์ฟรอนด์” ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้กลุ่มผู้ซื้อห้องพักเกรงว่าจะได้รับผลกระทบจึงรวมตัวร้องขอความเป็นธรรม และเรียกร้องเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้นจนกลายเป็นมหากาพย์ยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบันนั้น


กระทั่ง นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้ลงนามหนังสือประกาศคำสั่งเมืองพัทยาที่ ชล 52304/9377 ลงวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อออกประกาศเชิญชวนภาคเอกชนร่วมเสนอราคาและวิธีการรื้อถอนอาคารอย่างเป็นทางการ 

โดยระบุว่า เมืองพัทยา จำเป็นต้องดำเนินการรื้อถอนอาคารโครงการ WaterFront Condominium Pattaya Thailand ของ บ.บาลีฮาย จำกัด ซึ่งก่อสร้างผิดแบบจากแบบแปลนที่ได้รับอนุญาต

จึงเป็นที่น่าจับตาว่าสุดท้ายแล้วการก่อสร้างโครงการยักษ์ริมอ่าวพัทยา ที่มีคดีความยืดเยื้อมานานนับ 10 ปี จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมมานานหลายปีจะจบลงอย่างสวยงาม และมีการใช้อำนาจทางกฎหมายเข้ามาดำเนินการได้จริงเพียงใด

ขณะที่ปัญหาเรื่องของเอกสารสิทธิที่ดินที่ยังคาราคาซัง เนื่องจากที่ดินของโครงการเป็นที่ดินแปลงเดียวกับที่ดินของ บ.อาชาแลนด์ ที่ถูกแบ่งแยกขายและตั้งอยู่ข้างเคียงกัน ซึ่งศาลฎีกาพิพากษาออกมาแล้วว่าเป็นที่ดินที่มีการออกเอกสารสิทธิอย่างไม่ถูกต้อง
กำลังโหลดความคิดเห็น