บุรีรัมย์ - ไม่จบง่าย เสี่ยร้านยางขี่บิ๊กไบค์ชนกองข้าวเปลือกที่ตากบนถนนจนล้มคว่ำลั่นเดินหน้าเอาผิดหลานสาวเจ้าของกองข้าวเพราะไม่ยอมขอโทษที่โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวหาขี่รถเร็วเอง ทั้งที่อุตส่าห์ใจดีไม่แจ้งความกลับตั้งแต่แรก
จากกรณีที่ นายคณากร อภัยจิตต์ หรือเสี่ยเต้ย อายุ 27 ปี เจ้าของร้านยางแห่งหนึ่งใน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์พุ่งชนกองข้าวเปลือกที่ชาวนาตากไว้บนถนนบริเวณบ้านหนองจอก ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ ช่วงประมาณ 20.00 น. วันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา จนรถเสียหลักล้มได้รับความเสียหายและบาดเจ็บ จึงได้นำไปโพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัยผู้ขับขี่ให้ระมัดระวัง
พร้อมกับฝากถึงชาวนาให้นำกรวยหรืออุปกรณ์สะท้อนแสงมาติดตั้งเป็นสัญลักษณ์เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้ติดใจเอาเรื่องเจ้าของข้าวเปลือกที่นำมาตากบนถนนเพราะเห็นใจ แต่พอถูกหลานสาวเจ้าของข้าวโพสต์ต่อว่าว่าเกิดจากตนเองขี่รถเร็ว จึงเปลี่ยนใจเข้าแจ้งความเอาผิดตามกฎหมาย
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (18 พ.ย.) นายคณากร อภัยจิตต์ หรือ “เสี่ยเต้ย” ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.พงศ์สันต์ บุตตะวงศ์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยเสี่ยเต้ยยืนยันว่าจะเอาผิดเจ้าของที่นำข้าวเปลือกไปตากบนถนนจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ
เพราะจนถึงขณะนี้ทั้งเจ้าของข้าวและหลานสาวที่เข้ามาคอมเมนต์ต่อว่าตนเองยังไม่ได้ติดต่อพูดคุยถามอาการบาดเจ็บหรือเข้ามาขอโทษแต่อย่างใด
ทั้งยังไปให้ข่าวอีกว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากความประมาทและตนเองที่ขี่รถเร็ว เหมือนกับคุณลุงเจ้าของข้าวก็ไม่ได้จริงใจที่อยากจะมาขอโทษ ก็คงต้องปล่อยไปตามกระบวนการกฎหมาย
นายคณากรบอกว่าพอตนเห็นข้อความโพสต์ดังกล่าวรู้สึกเสียความรู้สึกเพราะเหมือนจะหาว่าที่เกิดอุบัติเหตุไม่ได้เป็นเพราะการตากข้าวบนถนน แต่เป็นเพราะตนเองขี่รถเร็ว รุ่งเช้าจึงตัดสินใจนำภาพถ่ายตอนที่เกิดอุบัติเหตุไปแจ้งความที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อเอาผิดเจ้าของข้าวตามกฎหมายที่นำข้าวมาตากกีดขวางการจราจรจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ
“จากการประมาณการค่าซ่อมรถเบื้องต้นก็หลายหมื่นบาท ส่วนอาการบาดเจ็บก็จะไปตรวจเอกซเรย์ที่ โรงพยาบาลอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งจริงๆ ผมก็ไม่ได้อยากจะเอาเรื่อง แต่ในเมื่อเจอแบบนี้ก็ว่ากันไปตามกระบวนการทางกฎหมาย” นายคณากรกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลานสาวคนที่เข้าไปคอมเม้นต์ต่อว่าเสี่ยเต้ยในเฟซบุ๊ก ผู้สื่อข่าวก็ได้ติดต่อสอบถามเพื่อขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น แต่เจ้าตัวอ้างว่าไม่สะดวกจะให้สัมภาษณ์ บอกเพียงว่าญาติซึ่งเป็นเจ้าของข้าวจะเข้าไปพบตำรวจเอง และหลังจากที่เข้าไปคอมเมนต์จนทำให้เกิดกระแสดรามาก็ได้ลบคอมเมนต์ไปแล้ว
ขณะที่พนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวบอกว่าจะเรียกทั้งสองฝ่ายมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง หากผู้แจ้งยืนยันจะดำเนินการเอาผิดก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย แต่เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใคร