xs
xsm
sm
md
lg

“หนิง” วอนอย่าดรามาใส่ “เข้ม-มุกดา” บอกแค่คู่จิ้น อย่าคาดหวังให้เป็นคู่จริง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“หนิง” ยอมรับเครียดแทน “มุกดา” โดนถล่มยับหลังออกปากมีหนุ่มคุยแล้ว วอนแฟนคลับอย่าคาดหวังเรื่องจิ้น “เข้ม” ว่าต้องเป็นคู่กันจริงๆ บอกได้แต่ให้กำลังใจและสอนเรื่องการทำใจเรื่องข่าว เพราะตนเห็นและปั้นคู่นี้มาตั้งแต่ต้น ไม่อยากเห็นน้องเครียด ขอฟนคลับว่าถ้ารักจริงก็ขอให้ดูที่ผลงาน อย่าคาดหวังเรื่องความรัก

โดนถล่มหนักหน่วงทีเดียว หลังจากที่นางเอกสาว “มุกดา นรินทร์รักษ์” ออกมาให้สัมภาษณ์ว่ามีหนุ่มคนพิเศษที่กำลังศึกษาดูใจกันอยู่ ทำเอาแฟนคลับที่กำลังจิ้นเจ้าตัวกับพระเอกหนุ่ม “เข้ม หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล” ถึงกับรับไม่ได้ มีการเข้าไปคอมเมนต์ต่อว่าต่างๆ นานา ซึ่งล่าสุดได้เจอผู้จัดละครที่เรียกว่าปลุกปั้นคู่นี้ขึ้นมาจากละครเรื่อง โซ่เวรี อย่างสาว “หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ” ก็ยอมรับว่าเครียดแทน เพราะมุกดาโดนหนักจริงๆ

“ถ้าจะตอบว่าไม่รู้สึกอะไรเลยก็คงไม่ใช่ ถามว่าเครียดไหม ก็แอบเครียดเบาๆ แทน แต่หนิงเชื่อมั่นในน้องทั้งสองว่าเดี๋ยวเขาก็จะผ่านเหตุการณ์ตรงนี้ไปได้ หนิงว่าคนที่เกิดมาแล้วต้องมาเป็นดารา มันไม่มีดาราคนไหนที่จะไม่เจอเรื่องประเด็นดรามา มันอาจจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับพวกเขา แต่หนิงเชื่อว่าพวกเขาต้องผ่านไปได้ค่ะ

ที่เราต้องออกมาปกป้องน้องโดยที่เข้าไปตอบคอมเมนต์คนที่เข้ามาถล่มมุกดา เพราะหนิงรู้จักน้องทั้งสองคนค่อนข้างดีประมาณนึง คงไม่ใช่ว่ารู้ทั้งหมดในชีวิตเขา และค่อนข้างมั่นใจว่าเด็กทั้งสองคนเป็นเด็กน่ารักและเป็นเด็กที่ดีมากๆ ตั้งใจทำงาน ไม่งั้นเราคงจะไม่ได้รักเขาขนาดนี้ ในหลายๆ คอมเมนต์ เรารู้สึกว่ามันเป็นคอมเมนต์ที่เข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของน้องเขามากเกินไป มันเลยรู้สึกว่าถ้าสามารถจะพูดคำพูดไหนหรือประโยคอะไรสักประโยคหนึ่งให้เขาเหล่านั้นได้เข้าใจบ้างก็อยากที่จะพูด เพราะหนิงเชื่อว่าน้องเองก็คงจะไม่ได้เข้าไปเขียนหรือพูดอะไรอยู่แล้ว แต่ก็พอจะรู้ว่าน้องคิดอะไรยังไงอยู่

ในส่วนของหนิงเวลาที่เข้าไปคอมเมนต์ในข้อความ จะเขียนเลยว่า ขออนุญาตนะคะและก็ขอโทษที่เข้ามาคอมเมนต์ เราก็ขออนุญาตเข้าไปอย่างมีมารยาท เพราะเอาจริงๆ แล้วในเรื่องของคู่เขา แต่ละคนจะต้องมีพื้นที่ที่เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนด้วยเหมือนกัน เรื่องของงานก็มีส่วนในเรื่องของงาน ฉะนั้นมันจะต้องมีมุมส่วนตัวของแต่ละคน หนิงว่าทุกคนบนโลกใบนี้ก็คงอยากจะมีพื้นที่ที่รู้สึกว่าเราเสร็จงานแล้ว เราเหนื่อยแล้วมันเป็นพื้นที่ของเรา”

บอกสอนให้คิดบวก ขอแฟนคลับอย่าคาดหวังให้คู่จิ้นต้องเป็นคู่จริง
“ก็ได้คุยกับน้องมุกดา ส่งกำลังใจให้และจะสอนว่าเราต้องรับมือกับมันยังไง คิดบวก อะไรก็แล้วแต่บนโลกใบนี้ให้เราคิดบวกเข้าไว้ ในโลกใบนี้มันจะมีด้านที่รักเราและคนที่ไม่รักเรา มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ทุกคนรักเราและเข้าใจเราในทุกๆ เรื่อง มันเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นคิดบวกเข้าไว้และเสพแต่คนที่เขาเข้าใจเรา แต่คนที่เขาไม่เข้าใจไม่ใช่ว่าเราไม่สนใจเขานะ เราก็สนใจเขาหยิบในประเด็นบางประเด็นที่คิดว่ามันมีประโยชน์กับเราแล้วเอามาปรับปรุงพัฒนา น้องเป็นคนคิดดีทั้งคู่ เราก็รู้สึกรักและเป็นห่วง

ถามว่าเขามีภูมิคุ้มกันมากแค่ไหนกับความเป็นคู่จิ้น หนิงว่าต้องค่อยๆ เริ่มเรียนรู้ ซึ่งหนิงจะบอกกับเขาทั้งสองคนตลอดเวลา หรือแม้กระทั่งถ้าหนิงได้มีโอกาสเจอแฟนคลับบ้านคู่หรือกลุ่มใครก็แล้วแต่ หนิงจะบอกว่า อย่าไปคาดหวังว่าจะให้เขาเป็นคู่จริง ณ วันนี้ หนิงจะบอกเขาทั้งคู่ว่าวันนี้กระแสคู่จิ้นฟีเวอร์มาก เรายังเด็กอยู่ เรายังต้องต่างคนต่างทำงาน โฟกัสงานที่จะต้องเดินไปข้างหน้า ถ้าเป็นคำพูดคนสมัยโบราณอย่างเราก็คืออย่าเพิ่งไปหลงแสงสีมันมากมาย ให้โฟกัสเรื่องงาน จับมือกันทำงานและรักกันดูแลกัน”

เราไม่รู้หรอกว่าหนทางข้างหน้ามันจะเป็นยังไง แต่ถ้าวันนี้เราทำงานให้ดี เรารักกัน เราดูแลกัน ข้างหน้ามันก็จะมั่นคง ความรักมันอาจจะเกิดขึ้นได้ แต่อย่าให้มันเกิดขึ้นเร็ว เราเอาประสบการณ์ของเราทั้งหมดเล่าให้น้องฟัง ว่าความรักมันเกิดขึ้นได้ แต่อายุเท่านี้ทำงานโฟกัสงานก่อน แต่สิ่งที่น้องเขาเป็นในตัวเขาที่ทำให้คนรักเขาเป็นคู่จิ้น มันไม่ใช่จากการสร้าง มันคือธรรมชาติของเขาทั้งคู่เวลาเขาอยู่ด้วยกัน คู่นี้มันจะมีเคมีอะไรบางอย่างที่ลงตัวเวลาทำงานด้วยกัน คนหนึ่งที่ล้นกับอีกคนที่นิ่งๆ พอมันอยู่ด้วยกันมันก็เป็นธรรมชาติที่ลงตัว ก็อยากจะให้ทุกคนรักในงานของเขา หนิงจะบอกบรรดาแฟนคลับทั้งหลายว่า ถ้ารักน้อง เวลาน้องไปทำงานกับใครเราก็ต้องสนับสนุนผลงานของน้อง เรามองกันอย่างนี้ดีกว่า”

บอกอยากให้ทั้งคู่ประสบความสำเร็จในเรื่องงาน
“ถามว่าเขากดดันหรือเครียดไหม พวกเราค่อนข้างคุยกันทุกเรื่องนะคะ สมมติว่าพอมันมีอะไรมาเยอะแยะมากมายมากระทบ หนิงก็จะนัดน้องทานข้าว น้องคนนี้รู้สึกยังไงอีกคนรู้สึกยังไง แล้วเราจะทำยังไงให้อยู่ในกรอบหรือในสิ่งที่มันควรที่จะเป็น สุดท้ายแล้วในวันนี้เขาเพิ่งจะประสบความสำเร็จกัน แต่ถามว่าเขาต้องเดินไปถึงเส้นทางที่อยากจะไปแล้วหรือยัง มันก็ยังไม่ได้ไปสุดขนาดนั้น ฉะนั้นสิ่งที่เขาต้องทำมันคืองานใช่ไหมล่ะ แต่ถ้าเขาไปโฟกัสเรื่องความรัก แล้วถ้างานไม่ประสบความสำเร็จ ใครจะเลี้ยงพ่อแม่เขาทั้งคู่ เขาต่างคนต่างต้องดูแลครอบครัว ยังต้องมีอะไรอีกหลายอย่า

ปัจจัยในการใช้ชีวิตมันยังมีองค์ประกอบอีกเยอะ ก็อยากจะฝากทุกคนว่าถ้ารักคู่นี้จริงๆ ก็ซัปพอร์ตเขาไม่ว่าเขาจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ หนิงเชื่อว่าความรักถ้ามันมาจากความรู้สึกที่มันบริสุทธิ์ใจ ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไง เราก็รักเขาถ้าเขาเป็นคนดี เป็นเด็กดี ทำไมหนิงทำงานกับเด็กสองคนนี้ทำไมถึงรักเขาขนาดนี้ ทำไมเราถึงจับมือกันมาได้ถึงทุกวันนี้เพราะว่าความเป็นเด็กดี เด็กตั้งใจของเขาทั้งคู่ เป็นคนคิดดี”

เผยเห็นคู่นี้มาตั้งแต่ต้น เป็นเด็กดีทั้งคู่
“ถามว่าคิดไหมว่าทำไมอยู่ดีๆ คู่นี้ถึงได้ดังขนาดนี้ เชื่อไหมว่าวันที่จับคู่นี้มาเจอกัน กระแสดรามาเยอะมากกว่า มันไม่ใช่แค่โดนด่า น้องทั้งสองคนก็จิตตก แม้กระทั่งตัวหนิงเองและทีมงานทุกคนก็จิตตก บางทีคนไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงเกาะกลุ่มกันขนาดนี้ เพราะเราเริ่มจากที่ทุกอย่างโดนมองว่ามันไม่ใช่ แล้วเมื่อมันโดนมองว่ามันไม่ใช่เราก็จะมารวมกลุ่มกัน ตัวหนิงเองเป็นผู้นำของงาน เราก็จะต้องสร้างพลัง ลุกขึ้นมาอย่าเครียดอย่าจิตตกนะ ในระหว่างทางมันโดนมาตลอด ละครไม่น่าดังอย่างนั้นอย่างนี้ เราก็จะสร้างพลังให้กันและกัน

ทุกคนผ่านอุปสรรคมาด้วยกัน แล้วมันเกิดจากความตั้งใจดีของทั้งคู่ เกิดจากความน่ารักเป็นธรรมชาติของทั้งคู่ที่พยายามซัปพอร์ตงานโซ่เวรี งานชิ้นนี้มันเลยออกมาประสบความสำเร็จ คือถ้าไม่มีเขาทั้งคู่ ไม่มีทีมงาน ไม่มีพลังดีๆ ที่เราคอยสร้างพลังให้กัน มันก็จะไม่มีวันนี้ ที่สำคัญพอเราสร้างพลังให้กันแล้ว แฟนคลับเห็น แฟนคลับรับรู้เขาก็มาสนับสนุนเรา จนวันนี้มันเกิดประเด็นดรามา หนิงเจอน้องแฟนคลับเขาก็เดินเข้ามากอด เหมือนเป็นการแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กัน”










กำลังโหลดความคิดเห็น