เชียงราย - หอการค้าฯ เชียงรายเร่งรัฐหาทางเจรจา สป.จีนเปิดท่าเรือกวนเหล่ย หนุนการส่งออกผลไม้ไทยเพิ่มหลังโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย
นายอนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ในอดีตมูลค่าการค้าที่จุดผ่านแดนถาวรทั้งที่ อ.แม่สาย ท่าเรือ อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ จะมีมูลค่าใกล้เคียงกัน แต่หลังเกิดวิกฤตไวรัสโควิด-19 จนมีการปิดพรมแดนและเปิดช่องทางขนส่งสินค้าบางจุด พบว่ามูลค่าการค้าด้าน อ.แม่สาย ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย. 2563 มีอยู่ 9,655,144,938.95 บาท แยกเป็นการส่งออก 8,280,223,326.79 บาท นำเข้า 1,374,921,612.16 บาท ส่วนที่ อ.เชียงของมีการค้ารวม 19,985,703,152.28 บาท แยกเป็นการส่งออก 14,367,941,470.92 บาท และนำเข้า 5,617,761,681.36 บาท
แต่การค้าผ่านท่าเรือ อ.เชียงแสนมีมูลค่าการค้ารวมเพียง 5,239,702,398.09 บาท แยกเป็นการส่งออก 4,965,846,747.14 บาท และนำเข้า 273,855,650.95 บาท ซึ่งถือว่าน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับจุดผ่านแดนอีก 2 อำเภอ และกับมูลค่าการค้าในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
นายอนุรัตน์กล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่การค้าทางเรือแม่น้ำโขงลดลงเพราะก่อนหน้านี้เป็นการค้าระหว่างไทย-จีนเป็นสำคัญ โดยสินค้าจะส่งออกทางท่าเรือแม่น้ำโขง อ.เชียงแสนไปยังเมืองท่าต่างๆ ใน สปป.ลาว-ท่าเรือกวนเหล่ย มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ห่างจาก อ.เชียงแสนประมาณ 264 กิโลเมตร แต่หลังโควิดระบาดท่าเรือใน สปป.ลาว รวมถึงท่าเรือกวนเหล่ยซึ่งเป็นเมืองท่าหน้าด่านของจีนปิดให้บริการติดต่อกันมานานหลายเดือน ทำให้สินค้าทางเรือที่จะส่งออกไปยังมณฑลยูนนานต้องยุติลงโดยสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายลงทั้งในประเทศไทยและจีน จึงเห็นว่ารัฐบาลควรจะเจรจาหารือกับจีนให้เปิดท่าเรือกวนเหล่ยเพื่อขนส่งสินค้าไทย-จีนได้เหมือนเดิม ให้การค้าสามารถดำเนินไปได้ตามปกติ
ประธานหอการค้า จ.เชียงรายกล่าวอีกว่า ตอนนี้มูลค่าการค้าด้าน อ.เชียงของเพิ่มมากขึ้น เพราะสินค้าประเภทผลไม้ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดจีน ทำให้มีการขนส่งผ่าน อ.เชียงของ ข้ามสะพานแม่น้ำโขงไปยัง สปป.ลาว ถนนอาร์สามเอเพื่อไปยังชายแดนจีน-สปป.ลาว ที่เมืองบ่อเต็น-โมฮาน ก่อนส่งเข้าจีน จึงทำให้มูลค่าการค้าด้าน อ.เชียงของเพิ่มมากขึ้น แต่การขนส่งสินค้าทางเรือสามารถทำได้มากกว่าและมีต้นทุนต่ำกว่าทางบก ดังนั้น หากมีการเปิดเมืองท่าริมแม่น้ำโขงในจีนจะทำให้สามารถส่งออกสินค้าโดยเฉพาะผลไม้สดที่ชาวจีนนิยมได้มากขึ้นแน่นอน
