เชียงราย - การค้าชายแดนเชียงรายเริ่มฟื้น..หลังโควิด สป.จีนผ่อนคลาย ยอดส่งออกผ่านด่านฯ ทางบก-น้ำโขงกระเตื้อง เฉพาะพรมแดนเชียงของผ่านเส้นทาง R3a ยอดเพิ่มชัด
สำนักงานพาณิชย์ จ.เชียงรายแจ้งว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย. 2563 การค้าชายแดนด้าน จ.เชียงราย ผ่านจุดผ่านแดนถาวรแม่สาย สะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย, ท่าเรือแม่น้ำโขง อ.เชียงแสน แห่งที่ 2 และสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 อ.เชียงของ ที่ยังเปิดให้นำเข้า-ส่งออกภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ
หลังจากเคยลดลงช่วงเกิดวิกฤตไวรัสระบาด เพราะเริ่มมีการปิดด่านพรมแดนทั้งด้านชายแดนสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า และ สปป.ลาว รวมทั้งท่าเรือริมแม่น้ำโขงของ สป.จีนด้วย
ล่าสุดห้วงเดือน ส.ค.-ก.ย.ที่ผ่านมาตัวเลขการส่งออกสินค้าจากประเทศไทยผ่านทางสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 อ.เชียงของ เพิ่มขึ้นเท่าตัว ขณะที่ด้าน อ.แม่สาย การส่งออกเริ่มทรงตัวหลังจากไทย-พม่ามีการปรับระบบการขนส่งสินค้าให้คล่องตัวมากขึ้น แต่การค้าผ่านทางเรือน้ำโขงยังคงไม่คึกคักเหมือนด่านอื่นๆ เพราะท่าเรือในประเทศเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ยังปิด ยกเว้นท่าเรือในพม่าที่เปิดรับเรืออยู่
อย่างไรก็ตาม มูลค่าการค้าชายแดนทั้ง 3 อำเภอ ตลอดระยะเวลา 9 เดือนที่ผ่านมามียอดรวมกันทั้งหมด 34,880,550,489.32 บาท เป็นการส่งออก 27,610,011,544.85 บาท และนำเข้า 7,266,538,944.47 บาท
นายอนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้า จ.เชียงราย เปิดเผยว่า หลังจากการค้าชายแดนได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ตอนนี้ก็เริ่มปรับตัวใช้ช่องทางที่มีอยู่นำเข้าและส่งออกสินค้ากันมากขึ้น โดยการค้าผ่านด่านพรมแดนด้าน อ.เชียงแสนมีมูลค่ารวม 5,239,702,398.09 บาท แยกเป็นการส่งออก 4,965,846,747.14 บาท นำเข้า 273,855,650.95 บาท การค้าผ่านด่านพรมแดนด้าน อ.แม่สาย มีมูลค่ารวม 9,655,144,938.95 บาท แยกเป็นการส่งออก 8,280,223,326.79 บาท นำเข้า 1,374,921,612.16 บาท และการค้าผ่านด่านพรมแดน อ.เชียงของมีมูลค่ารวม 19,985,703,152.28 บาท แยกเป็นการส่งออก 14,367,941,470.92 บาท นำเข้า 5,617,761,681.36 บาท
เป็นที่น่าสังเกตว่าตัวเลขด้าน อ.เชียงของเพิ่มมากขึ้นตามลำดับนับจากช่วงปิดพรมแดนใหม่ๆ ที่ สป.จีนเข้มงวดชายแดนด้านจีน-สปป.ลาว จนสินค้าไทยส่งไปไม่ได้ รวมทั้ง สปป.ลาวเองก็เริ่มปิดด่านพรมแดนเช่นเดียวกับไทย ต่อมาเมื่อสถานการณ์ผ่อนคลายและจีนก็ลดความเข้มงวด ทำให้การส่งออกในเดือน มิ.ย.ที่มีมูลค่าประมาณ 855 ล้านบาท เดือน ก.ค.เพิ่มเป็น 1,127,710,412.98 บาท, ส.ค. 1,624,949,973.55 บาท และ ก.ย. 1,421,476,765.26 บาท
สินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นผลไม้สดจากไทยซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดจีนมาก โดยมีสัดส่วนส่งออกคิดเป็นร้อยละ 84.25 ของสินค้าทั้งหมด รองลงมาคือสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องจักรกลและอุปกรณ์ พืชผักและผลไม้แปรรูป ยางพารา ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันยังคงใช้มาตรการเปลี่ยนถ่ายคนขับและหัวลากกันตามมาตรการของแต่ละประเทศ แต่ก็สามารถทำการค้ากันได้
ส่วนด้าน อ.แม่สาย เป็นการค้ากับรัฐฉานผ่าน จ.ท่าขี้เหล็ก เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ตัวเลขยังคงทรงตัว โดยสินค้าส่งออกของไทยคือเครื่องอุปโภคบริโภค น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น ปศุสัตว์ สุรา เบียร์ ไวน์ เครื่องดื่ม น้ำดื่ม ฯลฯ