xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาโอด! ราคาข้าวเปลือกตกต่ำซ้ำต้นทุนสูง ต้องตากแห้งชะลอขาย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาฬสินธุ์ - ชาวนาเมืองน้ำดำเดือดร้อน นำข้าวเปลือกนาปีไปขายถูกกดราคา เผยขายได้แค่กิโลฯ ละ 6 บาท ต้องนำกลับมาตากแห้งชะลอการขาย พร้อมเรียกร้องรัฐเร่งช่วยเหลือชาวนา ต้องแบกรับต้นทุนอื้อ ล่าสุดค่าจ้างรถเกี่ยวข้าวยังพุ่งสูงถึงไร่ละ 800 บาท ซื้อผ้ามุ้งเขียวตากข้าวอีกกว่า 3,000 บาท แต่ราคารับซื้อตกต่ำสุดๆ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในห้วงนี้เป็นช่วงเริ่มต้นฤดูเก็บเกี่ยวข้าวนาปี พี่น้องชาวนาหลายพื้นที่ต่างโอดครวญเรื่องของค่าจ้างรถเกี่ยวข้าวก็สูงถึงไร่ละ 800 บาท ค่าจ้างขนส่งไปขายเที่ยวละ 500 บาท หรือหากจะตากเมล็ดข้าวเปลือกให้แห้งก็ต้องซื้อผ้ามุ้งเขียวอีกผืนละ 600-800 บาทอีกด้วย ต่างวิตกว่าต้นทุนที่สูงขึ้นดังกล่าวจะทำให้การทำนาปีนี้ขาดทุนอีก

นายปรีชา ภูใบบัง อายุ 70 ปี ชาวนาบ้านตูม หมู่ 19 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ บอกว่า ปีนี้ตนทำนาหว่านเพราะไม่ต้องจ้างถอนกล้าและปักดำ แต่ช่วงที่ต้นข้าวกำลังเติบโตกลับประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง จึงทำให้เกิดวัชพืชขึ้นแซมต้นข้าวบ้าง ตนทำนาอินทรีย์จึงไม่ได้ฉีดยากำจัดวัชพืช พอจ้างรถเกี่ยวข้าวและนำไปขายเป็นข้าวสดพ่อค้าที่ลานรับซื้อข้าวเปลือกกลับไม่รับซื้อ อ้างว่าเมล็ดข้าวยังไม่แก่เต็มที่และมีเศษวัชพืชเจือปน ตนจึงได้นำมาตากผึ่งแดดเพื่อให้เมล็ดข้าวแห้งและจะนำกลับไปขายใหม่

ทำให้สิ้นเปลืองทั้งค่าขนส่ง และต้องไปหาหยิบยืมผ้ามุ้งเขียวจากเพื่อนบ้านมาตากข้าวด้วยเพราะหาซื้อผ้ามุ้งเขียวไม่ทัน และต้องการประหยัดเงินเป็นค่าขนส่งข้าวเปลือกไปขายเป็นรอบที่สองอีกด้วย อะไรประหยัดก็ต้องประหยัดกันละช่วงนี้ อย่างไรปีนี้ก็คงขายข้าวขาดทุนแน่นอนเพราะราคารับซื้อต่ำมาก


ด้านนายอาคม ภูภักดิ์ อายุ 53 ปี ชาวนาบ้านโคกใหญ่ หมู่ 1 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนมีที่นา 15 ไร่ ทำนาหว่านทั้งหมด โดยใช้ข้าวเหนียวพันธุ์ กข 6 เมื่อพื้นที่ทำนาเยอะก็ต้องลงทุนทำนาเยอะเป็นเงาตามตัว เพราะยุคนี้ค่าใช้จ่ายในการทำนาสูงขึ้นทุกอย่าง ทั้งค่าแรง ค่าปุ๋ยเคมี ค่าเก็บเกี่ยว ปีที่ผ่านมาขายข้าวสดได้ กก.ละ 10-11 บาท ก็ถือว่าคุ้มทุน แต่ปีนี้ทราบจากเพื่อนชาวนาว่าราคาข้าวตกต่ำ เพียง กก.ละ 6-7 บาทเท่านั้น จึงยังไม่นำข้าวไปขายเพราะคงขาดทุนแน่นอน จึงได้ลงทุนซื้อผ้ามุ้งเขียวมาตากข้าวเพื่อชะลอการขายไว้ก่อน รอสักระยะราคาข้าวอาจจะสูงขึ้นจึงจะนำไปขาย สำหรับตนคิดว่าหากลานรับซื้อ กก.ละ 8 บาทยังขาดทุน ราคา กก.ละ 9 บาทก็พอจะมีกำไร

ขณะที่ นายธนาพล ธรรมโนขจิต ผู้จัดการตลาดกลางข้าวและพืชไร่ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วนของราคารับซื้อข้าวเปลือกนั้นเป็นไปตามกลไกตลาด โดยที่ผ่านมาปัจจัยที่ดึงราคาข้าวต่ำลงเนื่องจากมีการลักลอบข้าวเปลือกและข้าวสารจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาตีตลาดข้าวไทย ทำให้เกิดผลกระทบต่อราคาข้าวเปลือกของชาวนาไทยที่กำลังเข้าสู่ตลาดข้าว

อย่างไรก็ตาม สมาคมพ่อค้าข้าวและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามมองหาวิธีการแก้ไขอยู่ตลอด


ปัจจุบันตลาดกลางข้าวและพืชไร่ จ.กาฬสินธุ์รับซื้อข้าวเจ้ามะลิใหม่สด กก.ละ 9.00-9.50 แห้ง กก.ละ 11.00-11.50 บาท ข้าวเหนียวสด กก.ละ 7.00-7.50 และแห้ง กก.ละ 9.50-10.00 บาท เป็นราคาข้าวคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กรมการข้าวกำหนด ทั้งนี้ ชาวนาต้องชะลอขายคือทางออกเดียวที่จะทำให้ข้าวขึ้นราคาได้

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปี 2563 ซึ่งชาวนาในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์กำลังประสบปัญหาดังกล่าว ทั้งฝนตก ความชื้นสูง ข้าวล้ม ค่ารถเกี่ยว ค่าขนส่ง และต้องสิ้นเปลืองเงินซื้อผ้ามุ้งเขียวสำหรับตากข้าวอีกผืนละ 600-800 บาท หรือรายละ 2,400-3,000 บาท ล้วนเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตทั้งสิ้น หากรวมกับค่าพันธุ์ข้าว ค่ารถไถ ค่าปุ๋ยเคมีและค่าแรง ผลสรุปคือขาดทุนซ้ำซาก

จึงอยากเรียกร้องให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะปรับเพิ่มราคาข้าวให้สูงกว่านี้ด้วย เพราะชาวนาเดือดร้อนมาก


กำลังโหลดความคิดเห็น