ศูนย์ข่าวศรีราชา - รองอธิบดีกรมโยธาฯ ยันจัดทำผังเมืองรวมใหม่มุ่งเน้นดันพัทยาเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยว EEC ขณะที่การปรับเพิ่มผังโซนสีแดงเพื่อรองรับการลงทุนในอนาคต ชี้ไม่ลิดรอนสิทธิประชาชน แต่คำนึงถึงความหนาแน่นและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
จากกรณีที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้กำหนดกรอบการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ เมืองพัทยา ให้มีความเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มโซนพื้นที่สีแดง หรือพื้นที่เชิงพาณิชยกรรม ซึ่งในช่วงของการทำประชาพิจารณ์ที่ผ่านมา ได้ถูกคัดค้านจากประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่เป็นอย่างมากเกี่ยวกับขนาดความกว้างของถนนที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้น
วันนี้ (14 พ.ย.) นายอนวัช สุวรรณเดช รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้เปิดเผยถึงการจัดทำผังเมืองรวมใหม่ของเมืองพัทยา ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำร่างและทำประชาพิจารณ์ว่า กรมโยธาฯ ได้กำหนดกรอบดังกล่าวเพื่อรองรับการก่อสร้างหรือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในอนาคต เช่น การก่อสร้างโรงแรม ห้างสรรพสินค้า หรือการก่อสร้างอื่นๆ ที่จะมีเรื่องของปริมาณการจราจรและความหนาแน่นของประชากรมาเป็นส่วนเกี่ยวข้อง
ขณะที่ขนาดถนนที่ค่อนข้างมีความจำกัดว่าจะสามารถรองรับปริมาณรถยนต์จำนวนมากได้หรือไม่นั้น กรมโยธาฯ มีแผนดำเนินการไว้ 2 แนวทางคือ 1.หากไม่เห็นชอบให้ขยายผิวการจราจรด้วยปัญหาความแออัดและการกระจุกตัวของชุมชนในสังคม ก็ต้องใช้มาตรการที่ 2.คือการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่มีคุณภาพเข้ามาดูแล
ฉะนั้น การจัดทำร่างผังเมืองใหม่จึงมุ่งเน้นในเรื่องของหลักคิด เพียงแต่มีการกำหนดในการรองรับเรื่องการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของ EEC ที่ในอนาคต เมืองพัทยาจะมีความหนาแน่นของทั้งจำนวนประชากร และปริมาณรถยนต์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งระบบสาธารณูปโภคก็จะต้องมีเพียงพอเช่นกัน
"อย่างไรก็ตาม ทั้งหลักคิดและแนวนโยบายที่ร่างไว้สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ การรับฟังเสียงจากประชาชน ซึ่งในวันนี้มีเสียงสะท้อนตอบรับจากผลของการจัดทำร่างผังเมืองแล้ว และผู้จัดทำจะต้องเอาทุกด้านมาผนวกรวมกันเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ของผังเมืองพัทยาได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมดุลต่อไป"
นายอนวัช ยังกล่าวอีกว่า การจัดทำร่างผังเมืองใหม่ของเมืองพัทยา ไม่ได้เป็นการลิดรอนสิทธิของประชาชน เพียงแต่คณะจัดทำเห็นว่า เมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญที่มีความหนาแน่นของการจราจรมาก
ดังนั้น หากไม่กำหนดกรอบไว้รองรับในอนาคตก็อาจมีปัญหานั่นคือเหตุผล แต่หากถนนหรือผิวจราจรไม่สามารถขยายตัวได้ก็คงต้องมาคิดร่วมกันกับท้องถิ่นว่าจะสามารถหาระบบขนส่งที่มีศักยภาพมารองรับได้หรือไม่
"กรณีดังกล่าวมีการจัดทำประชาพิจารณ์ไปแล้ว 2 ครั้ง และจะมีการดำเนินการอีกในเร็ววันนี้ โดยหลังจากการจัดทำร่างแล้วเสร็จก็จะส่งไปยังคณะกรรมการการจัดทำผังเมือง ก่อนประกาศเป็นเวลา 90 วัน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบและอาจมีการคัดค้านหรือยื่นคำร้องต่างๆ ต่อไป" รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าว